
เคยสังเกตไหมว่า ทำไมพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมแทบทุกแห่งต้องสวมแว่นตานิรภัยตลอดเวลา แม้กระทั่งในพื้นที่ที่ดูเหมือนจะ ไม่มีอะไรอันตราย ?
หลายคนอาจคิดว่าเป็นการ “เคร่งเกินเหตุ” แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังของกฎนี้มีทั้งหลักฐานทางสถิติ มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล และกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริงซึ่งช่วยตอกย้ำว่า “ดวงตา” คือหนึ่งในอวัยวะที่เปราะบางที่สุดในสถานที่ทำงาน และแว่นตานิรภัย คืออุปกรณ์ป้องกันที่ไม่ควรละเลย
เพราะความเสียหายต่อดวงตาเกิดขึ้น “เร็ว” และ “รุนแรง” กว่าที่คิด
ไม่ว่าจะเป็นเศษเหล็ก ฝุ่นจากการเจียร โลหะร้อน น้ำมัน หรือแม้กระทั่งสารเคมีที่ระเหยได้ สิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่ดวงตาได้ในเวลาไม่กี่วินาที และสร้างความเสียหายแบบถาวร งานวิจัยจาก OSHA (Occupational Safety and Health Administration) ในสหรัฐฯ พบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตาเฉลี่ยวันละกว่า 1,000 ราย และ 90% ของกรณีเหล่านั้นสามารถป้องกันได้หากใช้แว่นตานิรภัยอย่างถูกต้อง
ในประเทศไทยเอง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานก็ระบุชัดว่า “อุปกรณ์ป้องกันดวงตา” เป็นหนึ่งใน PPE (Personal Protective Equipment) ที่จำเป็นต้องมีในงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงงานผลิตโลหะ อิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ และงานก่อสร้าง
แว่นตานิรภัยกับมาตรฐานความปลอดภัยที่ทั่วโลกยอมรับ
โรงงานยุคใหม่ไม่ได้เพียงทำตาม “ข้อบังคับ” แต่ยังเลือกใช้แว่นตานิรภัยที่ผ่านมาตรฐานระดับสากล เช่น
-
ANSI Z87.1 (USA): มาตรฐานความทนแรงกระแทก เลนส์ และกรอบของแว่นตานิรภัย
-
EN166 (EU): ครอบคลุมแรงกระแทก ฝุ่น เคมี และรังสี
-
ISO 16321: สำหรับอุปกรณ์ป้องกันดวงตาในอุตสาหกรรมทั่วโลก
-
มาตรฐานกระทรวงแรงงานไทย: เช่น ข้อกำหนดในประกาศกระทรวงแรงงาน พ.ศ. 2547 ว่าด้วยการใช้ PPE
การมีแว่นตานิรภัยที่ผ่านมาตรฐานเหล่านี้ ไม่ใช่แค่เพื่อการตรวจสอบ แต่เป็นการรับประกันว่าอุปกรณ์สามารถ “ช่วยชีวิต” ได้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
เมื่อความประมาทเพียงครั้งเดียว อาจนำไปสู่ความสูญเสีย
หนึ่งในกรณีศึกษาที่ถูกพูดถึงบ่อยในวงการ คืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ย่านบางพลี ซึ่งช่างเทคนิคไม่ได้สวมแว่นตานิรภัยขณะตัดชิ้นงานโลหะ ทำให้เศษเหล็กขนาดเล็กพุ่งเข้าดวงตาข้างขวา แม้เข้ารับการรักษาทันที แต่สายตาไม่สามารถกลับมาเห็นชัดได้เหมือนเดิม
นี่คือตัวอย่างที่สะท้อนว่า “ความเสียหายต่อดวงตา ไม่สามารถย้อนกลับได้” และเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทหลายแห่งจึงตั้งกฎเข้มงวดเกี่ยวกับการสวมแว่นตานิรภัย รวมถึงบังคับฝึกอบรมซ้ำทุกปี
โรงงานที่ปลอดภัยไม่ใช่แค่มีอุปกรณ์ แต่ต้อง “วัฒนธรรมความปลอดภัย”
หลายองค์กรที่ประสบความสำเร็จด้านความปลอดภัยในโรงงาน ล้วนมีแนวทางที่ชัดเจน เช่น
-
ให้พนักงานมีสิทธิ “ปฏิเสธงาน” หากไม่มีแว่นตานิรภัย
-
ตรวจเช็ก PPE ก่อนเริ่มงาน
-
มีเจ้าหน้าที่ Safety ตรวจสอบรายวัน และให้รางวัลพนักงานที่สวมอุปกรณ์ครบถ้วน
สิ่งเหล่านี้สร้าง “วัฒนธรรมความปลอดภัย” ที่ไม่ใช่แค่สวมแว่นเพราะกลัวถูกปรับ แต่เป็นเพราะเข้าใจว่าความเสี่ยงเป็นของจริง และแว่นตานิรภัยคือด่านแรกที่ปกป้องดวงตาในทุกวินาที
Instragram :@ChillJourneyTHติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::
Facebook Page : Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Youtube : ChillJourney
Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!


