Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

สรุปทริปไต้หวัน 9 วัน 2 หมื่น ประเทศที่ดีงามเกือบเท่าญี่ปุ่นแต่ถูกกว่า3เท่า แบบย่อ

.      ชิลไปประเทศไต้หวันมาเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2557 – 4 มกราคม 2558   ที่ผ่านมาช่วงหยุดยาวปีใหม่นะครับ ทีนี้ก็มีหลายคนส่งมาถามใน message ว่าไปไหนมาบ้าง ไปกี่วันดี พักที่ไหนดี และก็มีหลายคนอยากตามรอย  เพราะเห็นชิลโฆษณาให้เหลือเกินว่า “ทั้งถูกและดี” นี่คือข้อความที่ผมอัพลงเพจหลังจากจบทริป www.facebook.com/ChillJourney

สรุปทริปไต้หวันแบบสั้นๆก่อนแล้วกันนะครับ คือเป็นประเทศที่ดีงามมาก ถึงมากที่สุด ถ้าคนที่นั่นไม่พูดภาษาจีนก็ต้องคิดว่าอยู่ญี่ปุ่น คนก็นิสัยดีมากกก รถไฟใต้ดินก็ดี รถไฟความเร็วสูงก็ดีงามเหมือนชิงคังเซ็น ขนมก็อร่อย ค่าแท็กซี่ก็ไม่แพง และที่เด็ดขาดคือขนม อร่อยเว่อร์มาก ค่าครองชีพพอๆกับกรุงเทพซื้ออะไรกินก็เต็มที่ไม่ต้องระวังเกินงบมากแบบตอนไปญี่ปุ่น

สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ 9 วันรวมตั๋วเครื่องบิน+โหลดกระเป๋า+ไปซะเกือบทั่วประเทศ+นอนโรงแรม+เอะอะเราก็นั่งแท็กซี่ ไม่รวมช็อปใช้ไปประมาณ 22,000 บาทครับต่อคนครับ ไต้หวันเป็น “ประเทศที่ถูกลืม” จากคนไทยจริงๆ “ถูกและดีก็มีในโลก” สำหรับผมนะถ้าเทียบความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายประเทศนี้ที่ 1 ของผมเลยหล่ะ

.        คือผมตั้งใจว่าจะเขียนรีวิวแบบละเอียดลงให้อยู่แล้วครับ แต่คิดว่าไม่เสร็จในเดือนนี้แน่ๆเลย กลัวเพื่อนๆจะรอกันไม่ไหวเลยเอาแบบสรุปมาให้ดูก่อนนะครับ เผื่อใครจะจองตั๋ว จองที่พัก อะไรยังไงก็ลองตามแผนนี้ได้เลย รีวิวละเอียดพร้อมวิธีการเดินทางอะไรก็เอาไว้ก่อนเน้อะเดียวมาเขียนให้ทีหลัง

แผนนี้เวิคไหม หนักเกินไปไหม?

เป็นแผนที่ไม่หนักจนเกินไปการันตีได้ เพราะทริปนี้ผม พาไปทั้ง เด็ก ผู้หญิง คนชรา คุณแม่อายุ 60กว่า พี่สาว และ หลานตัวน้อยอายุ 3 ขวบ  ทั้งหมดสามารถไปได้แบบสบายๆครับ

Download Trip plan ได้ที่ >>>  Taiwan_2014 – Revise

แล้วงบหล่ะ? ดีงามใกล้ญี่ปุ่น แพงแบบญี่ปุ่นป่าว?

ค่าตั๋วได้ไปกลับ 6000 + โหลดกระเป๋า 1000 บาท รวมเบ็ดเสร็จทริปนี้ใช้ไปประมาณ 22,000 ครับ  ( ไม่รวมช็อปและค่าวีซ่า 1,500 บางคนไม่เสียเลยขอไม่รวม )

แต่ รวมกินแหลกชิมแทบทุกร้านแล้ว คือจริงๆอาจจะถูกกว่านี้ได้เพราะผมไปช่วงปีใหม่รถเต็ม เลยเหมาแท็กซี่กันบ่อยมาก และไปกับครอบครัวจึงนอนโรงแรมกันตลอด ถ้าไปแบบประหยัดๆนอนโฮสเทลคิดว่าสัก 19k พอไหวครับ หรือถ้างบน้อยกว่านั้นให้ตัด sun moon lake และ alishan ออกไปพักแต่ในไทเป จะอยู่ในงบ 16-18k แน่นอนครับเพราะค่ารถไฟความเร็วสูง และ ค่ารถขึ้นลงเขาและที่พักในสองที่นี้แพงกว่าในไทเปเยอะเลย แต่ถ้าใครไม่เคยนั่งชิงคังเซ็นที่ญี่ปุ่นก็ลองนั่งที่ไต้หวันดูก็ดีนะ เพราะถูกกว่าสามเท่าแหนะ

ผมไปทั้งหมด 9 วัน ถ้านับเที่ยวจริงๆก็ 8 วันครับ รีวิวด่วนๆตามนี้เลย

Day 1 : บินจากดอนเมือง ถึงสนามบินไต้หวันตี 1 / นอนสนามบินรอเช้า ประหยัดค่าโรงแรม 1 คืน

Process-0888

Day 2 : เที่ยว Landmark วัด/กู้กง/ชิลิน ในไทเป  / นอนไทเป

Day 3 : ไปเที่ยว Taroko  / นอนไทเป

จองรถไฟล่วงหน้าผ่านเว็บ http://www.railway.gov.tw/en/ ไปลงสถานี Haulien นะครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมอุทยาน : http://www.taroko.gov.tw/English/

ไท่ลู๋เก๋อ  เต็มไปด้วยหินอ่อน มีอายุมากกว่า 200 ล้านปี หินอ่อนเหล่านี้เป็นการรวมการตกตะกอนใต้ทะเล แล้วเกิดแรงดันภายใต้โลกซึ่งทำให้เปลือกโลกโผล่ขึ้นมาเหลื่อมซ้อนกันอย่างที่เห็นในปัจจุบัน บริเวณนี้จะมีแต่ต้นไม้กับป่าและหุบเขาสีเขียวชอุ่ม อีกทั้งยังมีแม่น้ำลำธารข้างใต้หุบเขาลึก ดูน่าลึกลับอย่างบอกไม่ถูก

Day 4 : เที่ยว เย่หลิว – จิ่วเฟิน / นอนไทเป

อุทยานแห่งชาติเย๋หลิ่ว อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ทางส่วนเหนือสุดของเกาะไต้หวัน มีลักษณะพื้นที่เป็นแหลมยื่นไปในทะเล การเซาะกร่อนของนั้าทะเลและลมทะเล ทำให้เกิดโขดหินงอกเป็นรูปร่างลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะหินรูปพระเศียรราชินี ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

จิ่วเฟิน – วิวไม่เท่าไหรหรอกที่นี่ แต่ของกินอร่อยเว่อร์ อร่อยแทบทุกร้าน สวรรค์นักกิน พูดแล้วหิวเลย

หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น  ซึ่งเป็นแหล่งเหมืองทองที่มีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยกษัตริย์กวงสวี้ แห่งราชวงศ์ชิง มีนักขุดทองจำนวนมากพากันมาขุดทองที่นี่ การโหมขุดทองและแร่ธาตุต่างๆ ทำให้จำนวนแร่ลดลงอย่างน่าใจหาย ผู้คนพากันอพยพย้ายออกไปเหลือทิ้งไว้เพียงแต่ความทรงจำ จนกระทั่งมี     การใช้จิ่วเฟิ่นเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์ “เปยฉิงเฉิงชื่อ” และ “อู๋เหยียน เตอะซันชิว” ทัศนียภาพภูเขาที่สวยงามในฉากภาพยนตร์ ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เดินทางมาชื่นชม จิ่วเฟิ่นจึงกลับมาคึกคักและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

Day 5 : (31 ธค. 2557)  เที่ยวไทเป และ ค่ำๆขึ้นเขา เซี่ยงซาน รอ count down ถ่ายพลุกับรูปตึกไทเป 101 (Elephant Mountain) / นอนไทเป

*เช้าไปกระเช้า maokong  บนกระเช้าเห็นวิวไทเปทั้งเมือง ฟินนน

กลางคืนเดินขึ้นเขา ฝ่าฝูงคนนับล้านไปชมวิว ฟินอีกรอบ ชอบโมเม้นนั้นมาก

Day 6 : ไป Sun moon lake  / นอน sun moon lake

*ตามแผนเดิมจะออกแต่เช้าไปเที่ยว sun moon lake  แต่เนื่องจากวันนั้นเป็นวันที่ 1 มค. ตั๋วรถไฟเต็มมีรอบไวสุดที่บ่ายโมงเราไปถึงประมาณบ่าย2 กว่าจะได้ขึ้นรถแท็กซี่ก็บ่าย3

จองรถไฟความเร็วสูง ( HRS ) ได้ที่ http://www5.thsrc.com.tw/en/

และวันนั้นรถติดมากกกกกกกกกก มาถึงที่นี่เกือบๆ 6 โมงแล้วได้นั่งเรือล่องทะเลสาบแค่ขาเดียวและนั่งรถบัสกลับโรงแรมครับ

Day 7 : เช้า Sun moon lake แล้วไป Alishan (เพราะรถบัสเต็ม) / นอน Alishan

แสงเช้าที่ sun moon lake สวยมาก ฟินมาก คุ้มค่ากับการตื่นตี5สุดๆ

*ตามแผนเดิมเราต้องขึ้นรถทัวร์แต่ 9 โมงแต่รถเต็ม เราเหมารถตู้(แท็กซี่)กันไปที่ราคา 6000 TWD  ให้โรงแรมนัดให้จึงนัดคนขับบ่ายโมง เช้าเราไปเก็บตก sun moon lake ก่อนคือ วัดกวนอู และ กระเช้า

โบนัสจากการเหมาะแท็กซี่ราคาแสนโหด ( ราคาปกตินะเค้าไม่ได้โกงอะไร) วิวข้างทางลัดเลาะเขาไปอาลีซันสวยเว่อๆเลยขอให้คนขับแวะถ่ายภาพได้

Day 8 : ตื่นตี 4 นั่งรถไฟสายโบราณไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Alishan และเที่ยวในอุทยาน เย็นๆกลับด้วยรถไฟความเร็วสูง / นอน ไทเปโรงแรมเดิมเพราะฝากกระเป๋าได้

ตื่นตี 4 หนาวโคตรๆอากาศประมาณ 0-2 องศา เราทนหนาวกัน 1 ชม.กว่าเพื่อฟินกับบรรยากาศ

 

 

Day 9 : เช้าไปตั้นสุ่ย และบินกลับไทย

แผนคิดกระทันหันเมื่อคืน วันนี้มีครึ่งวันเหลือทำไรดี  เลยลองไปตั้นสุ่ยดู แล้วพบว่านี่มันสรรค์นักกินชัดๆๆ แนวๆเยาวราชเราเลย ของกินเยอะมากกกก และอร่อยมากกกก ควรไปอย่างยิ่งยวด ( นั่งรถไฟไปลงสถานี tamsui ถึงเลย )

 

ขอสรุปจบแค่นี้ก่อนนะครับ จริงๆเท่านี้ก็น่าจะเที่ยวตามได้แล้วเน้อะ ก็จะมีเล่าเพิ่มเติมผ่านในเพจเป็นประจำนะครับ และรีวิวเต็มๆคงมากลางๆเดือนหน้าครับ

ชีวิต backpacker ไม่ต้องมีแผนมากหรอกครับไปถามเอาข้างหน้า ไต้หวันเป็นประเทศที่มี visitor infomation ที่ดีน้องๆญี่ปุ่นเลยครับไปดูแผ่นพับเอาหน้างานได้ทุกที่เลยแหละ

อ้อ… เรื่องวีซ่าขอไม่ยากเขียนให้แล้วตามลิงค์นี้ครับ https://www.chilljourney.com/taiwanvisadec14/

Exit mobile version