Site icon Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

ทริปตามฝัน 17วัน Switzerland & Italy โคตรประหยัด กินเห่ย นอนห่วย วิวเทพ งบ 65,000 !!

ACOVER_EU_OVERVIEW

…คงมีไม่บ่อยนักที่เราจะกล้าออกจากกรอบเดิมๆไปทำตามหาฝัน…

 

ผม : พี่ครับสงกรานต์หน้าผมขอหยุด 2 อาทิตย์นะครับ …. จะไปทำตามฝันที่ยุโรป

นาย : (อึ้งไป 3 วิ) อืม แล้วเพื่อนๆไม่คิดถึงแย่เหรอ 2 อาทิตย์เลยนะ

ผม : ( อึ้งด้วย… จะตอบอะไรดีหล่ะ )

นาย : แต่รู้ล่วงหน้านานก็ดีแล้ว จัดการงานให้เรียบร้อยก่อนไปหล่ะ

ผม : ครับ ขอบคุณมากๆครับ

ทำไมถึงเป็น 2 ประเทศนี้?

 

.       นอกจากญี่ปุ่น ผมเชื่อร้อยละ 99% ของคนไทยฝันอยากไปสวิตเซอร์แลนด์ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมไปหลงรักประเทศนี้ตอนไหน อาจจะเป็นตอนที่นั่งดูละครไทยมาแต่เด็ก เห็นคุณชายที่อยู่สวิตเซอร์แลนด์พร้อมกับฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ที่มีหิมะปกคลุม มโนว่าตัวเองเป็นคุณชายในหนังละมั้ง

.       เอาเป็นว่าสวิตเซอร์แลนด์มันเข้ามาฝังหัวผมแต่ตอนไหนไม่รู้หล่ะ ผมมีสวิตเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในชีวิตว่าครั้งหนึ่งเราจะต้องเก็บตังไปเที่ยวให้ได้ แต่… สวิตฯเป็นประเทศที่ค่าครองชีพแพงอันดับต้นๆของโลก พอผมค้นหาราคา ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าเดินทางแล้วแบบ ฝันผมถึงสลายไปกับตา

.       พอดูข้อมูลสวิตเสร็จก็ดูแผนที่ว่าสวิตนี่อยู่ตรงไหนนะ แล้วมันติดกับอะไรบ้าง อิตาลี ก็ผุดขึ้นมาในหัว ใช่… ผมไม่เคยคิดฝันว่าผมจะได้ไป “เวนิส” ผมเคยคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันละมั้ง เวนิสเนี้ย ( จำได้ว่าตอนนั้นเปิดไปดูหนังพาไป เจอตอนเวนิสพอดี แล้วหน้าพิธีกร พี่บอลพี่ยอด ฟินมาก ที่แบบได้เห็นเวนิสแบบไม่คิดไม่ฝันมาก่อนในชีวิต )  ลองคิดดูว่าถ้าบินไปสวิตแล้วนั่งรถไฟอีกไม่ไกลก็ถึงอิตาลีแล้วหนิหว่า มันไม่ได้ไกล   … ทีนี้หล่ะความฝันมันมา ก็เลยคำนวณค่าใช้จ่ายใหม่ดูเอาแบบประหยัดสุดๆในสามโลก ด้วยตั้งโจทย์ที่ตั้งไว้ว่า

“ต้องมีเงินเท่าไหร ถึงไปสวิตและอิตาลีแบบจนสุดๆได้วะ?”

  • พี่พักเหรอ ….ขอที่ซุกหัวนอนก็พอ
  • อาหาร…ก็กินมาม่า กินขนมปังอะไรกันไป กินเพื่ออยู่ไว้กลับมาค่อยซัดบุฟเฟ่ที่ไทยชดใช้

ลองคำนวณเสร็จเที่ยวแบบจนสุดๆ 2 สัปดาห์นิดๆก็น่าจะสัก 8 หมื่น ( รวมทุกอย่างตั๋วยันวีซ่า)

 

ลำดับถัดไป… ชวนเพื่อน

ชิล : “มึง ไปสวิต อิตาลี ไม๊? ไปแบบจนโคตรๆเลยนะ

ชิล : “นอนโฮสเทล กินมาม่าทุกมื้อไรงี้ ไหวป่ะวะ”

ไข่:  “เออไป กูอยากไปอิตาลี”

ชิล : “ เฮ้ยตัดสินใจไวไปป่ะวะ”

.       เราคุยกันน่าจะไม่ถึง 5 นาทีก่อนตัดสินใจออกทริป  ทริปนี้จะเป็นทริปที่สุดหลายอย่างตั้งแต่ผมเกิดมาเลยหล่ะ เป็นอะไรที่ฝันมานานมากกกกกกกก อยาก Backpack ทริปนานๆ นอนโฮสเทล อะไรที่เคยดูรายการมา Roaming เอย หนังพาไป เอย along way home เอยผมอยากทำตามทุกสิ่ง อยากลองมีชีวิต Backpacker จริงๆแบบนั้น

 

…..เดินทางไกลที่สุด

…..ทริปนานที่สุด

…..ค่าครองแพงที่สุด

…..อยู่แบบจนที่สุด

 

แผนการเที่ยว

แผนการเที่ยวของผมจะเป็นการไล่จากบนลงล่าง เที่ยวชิวๆ(เหรอ) สไตล์ชิล ผมเลือกจะนอนค้างเมืองละอย่างน้อย 1 คืนเพื่อซึบซับเมืองนั้นๆ

Zurich – Interlaken – Bern – Lucerne – ( ขึ้นเขาแถว interlaken ) – Zermatt – Milan – Lake como – Verona – Venice – Florence – Pisa – Cinque terre – Rome – Vatican

[su_spoiler title=”ข้อมูลเล็กน้อยเผื่อจะเป็นประโยชน์“] จะไป สวิตเซอร์แลนด์ และ อิตาลีต้องทำวีซ่าอะไรบ้าง? -ใช้วีซ่าเชงเก้น เป็นวีซ่าที่ใช้ในกลุ่มยุโรป ผมขอไม่อธิบายการทำเพราะมีกระทู้ How to เต็มไปหมด ผมว่าเชงเก้นขอไม่ยาก ขอให้เอกสารครบตามที่เค้าต้องการ จุดประสงค์คุณไปเที่ยวชัดเจน ผมว่าก็ผ่านครับ การเดินทางภายในประเทศให้ประหยัด -สวิตเซอร์แลนด์ใช้ Swiss pass คุ้มที่สุดแล้วผมพยายามจะหาวิธีที่ถูกสุดในการเดินทางในสวิส อันนี้หล่ะครับคุ้มสุดไม่ต้องไปหาวิธีอื่น ( ผมเคยคำนวณแล้ว ) -รถไฟอิตาลี ไม่ต้องซื้อตั๋วเหมาให้ซื้อเป็นเที่ยวๆ โดยจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนจะได้ราคา economy , super economy ซึ่งถูกไปประมาณ 50-60% เลยจองผ่าน www.trenitalia.com ปริ้นไปขึ้นรถไฟได้เลยไม่ต้อง validate ( ระวังซื้อผิดวันแบบผมนะ refund ไม่ได้ทิ้งอย่างเดียวครับ ) -ในอิตาลีตั๋วเหมาเป็นอะไรที่คุ้มนะ เช่น Verona card , Venice 48 hr. , Metro rome 48 Hr. อาหาร -ที่สวิสแพงทุกอย่างผมแทบจะไม่ได้ซื้ออะไรเลยจากแซนวิส/ขนมปัง ตอนกลางวัน อยากหาของถูกมองหาร้าน COOP ไว้ผมฝากท้องกะซุปเปอร์นี้ตลอด ร้านข้างทางแพงกว่า COOP เชื่อผมเถอะ -ที่อิตาลี อาหารไม่แพงมากพอรับได้ พิซซ่าชิ้นละประมาณ 2.5 – 3.5 EU ก็อิ่มนะครับ อย่าเข้าร้านอาหารก็พอ เพราะตามร้านมื้อละประมาณ 10 EU เป็นต้นไป ซุปเปอร์ที่เราค้นพบว่าของถูกชื่อว่า PAM ครับ ถ้าพักโฮสเทลมีครัวซื้อมาทำเองประหยัดโคตรๆครับ -น้ำ กินจากน้ำก๊อกเอาครับ น้ำประปาสามารถทานได้ รวมทั้งน้ำพุตามเมืองต่างๆที่อิตาลีก็กินได้เช่นกัน -Gelato หรือ ไอติมที่อิตาลีอร่อยมากกก ปกติผมทานประมาณ 3 scoop โคนละประมาณ 2.5-5 EU แม้ผมจะประหยัดแต่อันนี้ยอมกินวันละ 1-2 แท่ง บางทีกินแทนข้าวเย็น ( หมดค่าไอติมไปประมาณ 40 EU T-T )[/su_spoiler]

ที่พัก

ผมนอนโฮสเทลที่เน้นทำเลดี ได้Ratingดี ไม่ได้เน้นถูกที่สุดหรือถ้ามีโรงแรมที่หารแล้วแพงกว่า hostel นิดเดียวทำเลยังดีอยู่ผมก็จะจองโรงแรมครับ

***ที่สวิสให้พักที่เดียวกันหลายๆวันแล้วนั่งรถไฟเที่ยวเอาแผนให้ปรับตามพยากรณ์อากาศ ถ้าอากาศดีให้ขึ้นเขา อากาศแย่ให้เที่ยวในเมือง อย่าไปวัดใจระบุวันนะครับ วันฟ้าปิดมันปิดจริงๆจ่ายเงินขึ้นเขาเป็นพันๆไม่เห็นอะไรเลยเศร้าเลยนะ ( ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่ฟ้าปิดคือปิดจริงๆนะไม่ใช่แค่ไม่สวย แต่ “ไม่เห็นอะไรเลย” )

 

แผนเที่ยว
.     รีวิวของผมจะไม่ได้มาบอกละเอียดว่า ตรงไปนะครับ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เลี้ยวซ้ายอีกรอบ กลับหลังหันแล้วจะเจอ แต่ผมเชื่อว่าด้วย Trip plan ของผมมันยังพาผมไปได้ และผมก็ได้แก้ไขให้ตรงความจริงแล้วผมก็เชื่อว่าพวกคุณที่จะตามรอยผมก็ต้องไปได้เช่นกัน

.     สำหรับผมการเดินทางมันคือการออกค้นหาสิ่งใหม่ การเดินตามรอยคนอื่นเป๊ะๆไม่สนุกหรอกครับ หาเส้นทางใหม่ของตัวเองดีกว่า แต่ผมจะแทรกข้อมูลที่ควรรู้ไว้ให้ เช่น ซื้อพาสแบบไหนคุ้มอะไรพวกนี้ ส่วนรายละเอียดการเดินทาง เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ผมไม่ค่อยได้จำเพราะผมก็เดินหลงๆไปเรื่อยๆครับ

เชิญดาวโหลด Tripplan ได้เลยที่ >>> Swiz-Italy-Plan <<<

เรื่องเงินเรื่องใหญ่…ตกลงรอดไม๊

สรุปค่าใช้จ่ายของผม รวมทุกอย่างในทริปรับรองไม่มีหมกเม็ด 65,000 บาท !!

ผมเพิ่มค่าใช้จ่ายที่อาจจะลดลงได้อีก 3 รายการ ถ้าไม่จองรถไฟผิดวัน ไม่กินไอติมบ้าคลั่งแบบผม และคุณอายุน้อยกว่า 26 ปี ทริปของคุณจะเหลือประมาณ 60,544.27 ครับ ( แพงกว่าไปญี่ปุ่นไม่เยอะเลยนะ )

 

ยุโรปไม่แพงอย่างที่คิด และก็ไม่ไกลเกินฝันนะครับ ^^


เอาหล่ะเกริ่นมานานได้เวลาอวดภาพ ชมวิว บิ้วแรงบันดาลใจออกไปท่องโลกกันดีกว่า …

Switzerland – ประเทศที่ผมคิดว่ามีแค่ ภูเขา กับ ทะเลสาบ แต่โคตรลงตัวเลย

ล่องเรือใน Lake lucerne – มุ่งสู่ภูเขาน้ำแข็ง เฮ้ยนี่มันฉากในหนังชัดๆ

ภาพถ่ายจากบน Mt.rigi

สะพานมีชื่อแห่งเมือง Lucerne “Kapellbrücke”

ถ่ายผู้คนกับเมืองโคตร classic อย่างเมือง “Bern”

วันฟ้าไม่เป็นใจก็ล่องเรือ “Lake thun”

และในวันฟ้าเป็นใจ ก็เลยยืนมองเขาเพลินๆ

จากเดิมที่จะไปแค่หมู่บ้าน murren เพราะ Swiss pass ใช้ได้ฟรีถึงแค่จุดนี้ แต่วันนั้นฟ้าใสมากกกกก  มากจนยอมจ่ายเพิ่มอีก 1,500 บาทเพื่อให้ได้ชมแบบนี้

แบบนี้

และแบบนี้

หมู่บ้านมรดก “Wengen” … ถามว่าทำไมมาที่นี่…มันคือสถานีสุดท้ายที่ใช้ swiss pass ได้ฟรีไงหล่ะครับ

เพื่อนถาม : มึงจะมองอะไรนักวะกะแค่ยอดเขา

ผม : ก็กุชอบ ..   สำหรับคนที่อยู่เมืองร้อนอย่างผม การเห็นยอดเขาหิมะใกล้ๆแบบนี้มันเป็นอะไรที่สุดจริงๆ

ภูเขาที่ฝันมานาน Matterhorn ในที่สุดผมได้มายืนมองด้วยตาด้วยตัวเอง

นั่งบ้าง ยืนบ้าง อยู่กับ Matterhorn 4 ชั่วโมง เรามากันเอง เราไม่เร่งรีบ รอแสงกันจนขึ้นรถไฟขบวนสุดท้าย

เกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่า ค่าโฮสเทลห้องรวม 8 เตียงจะแพงขนาดนี้ !!

ที่เมือง Zermatt ราคาคืนละเกือบๆ 1600 บาท แต่ยอมจ่ายเพราะอยากตื่นมาแล้วเห็นแสงแรกอาบยอดเขา Matterhorn

เที่ยวแบบชิลๆไม่รีบร้อน นั่งนอนดู Matterhorn ก่อนข้ามไปอิตาลี … แลดูชีวิตดี้ดี

จาก Zermatt เราก็นั่งรถไฟข้ามประเทศกันมายังอิตาลี จ่ายไป 3,000 แต่! รถไฟรอบของเราเสีย เอ้าาา

มาถึง Italy – ประเทศที่มีบ้านเมืองสวยงาม อะไรก็ดูดีมีสไตล์ไปหมด

 

Lake como – เมืองที่ Celebrity มักจะมาพักผ่อน เศษเล็บแบบผมจะพลาดได้ไง

Verona – เมืองแห่งตำนาน Romeo & Juliet

ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง “letter to juliet” คงจำฉากนี้ได้

ขาพัง…วิ่ง 4×100 เอาขาตั้งกล้องค้ำไว้ แบกร่างขึ้นเขา วิวที่ได้ “เกินคุ้ม”

Venice – เมืองที่ไม่มีที่ไหนในโลกเหมือน สวยมากจริงๆเป็นเมืองที่ผมชอบสุดในอิตาลีเลยครับ

บรรยากาศยามเช้า ที่ผู้คนไม่มาก

เวนิสที่เราเคยคิดว่ามันเป็นแค่ฝัน

หมู่บ้านหลากสีที่ฝันไว้มานานมาก มากถึงขนาดเซฟไว้ในมือถือว่าสักวันจะไปถ่ายด้วยตัวเอง”Burano”

Florence – เมืองหลวงเก่าของแคว้น Tuscany

Pisa – หอเอน สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

Cinque terre – หมู่บ้านประมง มรดกโลกทั้ง 5

ในภาพนี้คือหมู่บ้าน Manarola มุมนี้ผมเคยฝันไว้ว่าจะไปถ่ายด้วยตัวเอง

Rome – โคลอสเซียม อีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก

Roman forum

มีคำกล่าวไว้ว่า…ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม

Vatican – ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก  วิหาร St.peter

อีกหนึ่ง “มุมในฝัน ฉันไปมาแล้ว” บนยอดโดมวาติกัน ฟินส่งท้ายก่อนบินกลับไทย

ผมหวังว่ามันจะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการตามหาฝันของคุณ

… ฝันให้ใหญ่ แต่เริ่มก้าวทีละเล็ก

. . . ไว้สักวันเดียวจะก้าวถึงฝั่งฝันเองครับ

 

Exit mobile version