สวัสดีครับ หลังจากดองรีวิวนี้มานานจนเค็มได้ที่ทริปนี้ผมได้ไปมาในช่วง สงกรานต์ปีนี้ (2557) ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นฮิตฮอตสำหรับคนไทยอย่างมาก เนื่องจากเพิ่งจะมี Free visa ได้ไม่นาน และช่วงสงกรานต์ยังเป็นช่วงที่หยุดเยอะ ใช้วันลาน้อย และที่สำคัญ มันยังเป็นช่วง”ซากุระ” ของที่นั่นอีกด้วย

กระทู้นี้จะว่าด้วยบันทึกเรื่องราวความประทับใจและภาพถ่ายการท่องเที่ยวอย่างเดียว ขอไม่อธิบายในเรื่องของการเดินทาง เพราะจากที่ผมได้หาข้อมูลก่อนไปเที่ยวจากพันทิปนี้ก็เจอว่ามันละเอียดมากๆอยู่แล้ว  แต่อย่างไรถ้าใครมีคำถามตรงไหนก็สามารถสอบถามได้เลยครับ

Japan-1657

ทริปนี้เกิดขึ้นจากแม่ผม อยากไปญี่ปุ่น แม่ผมเคยไปญี่ปุ่นเมื่อ 20 ปีที่แล้วตั้งแต่ผมยังเด็กและแม่ก็อยากไปอีกครั้ง พี่ก็อยากไป ผมก็เลยจัดให้

ทำตัวเป็นไกด์เถื่อน พาพี่ กับ แม่ Backpack ตะลุยญี่ปุ่นกัน ไปทั้งทีก็เที่ยวให้ครบสถานที่ยอดฮิตไปเลย จัดไปเบาะๆ 10 วัน

ไกด์เถื่อนคนนี้พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้สักคำ ทริปนี้จะสนุกวุ่นวายแค่ไหนเดียวรู้กันครับ

แผนการเดินทางของเราจะเป็นดังนี้ครับ Tokyo – Osaka – Kyoto – Takayama – Shirakawago – Tokyo – Kawaguchiko – Tokyo

Day1 : Bangkok – Shanghai –  Tokyo

เราเดินทางด้วยสายการบิน China eastern airlines หลายคนคงยังไม่เคยได้ยินชื่อ ผมก็ไม่เคยใช้บริการมาก่อนเหมือนกัน ผมเลือกเพราะเจอจาก skyscanner เป็นสายการบิน Full service ที่ออก/กลับไทย ในวันที่ต้องการและราคาไม่แรง ได้มาในราคา 16215 บาทต่อคนเท่านั้นครับ

( ตอนนั้นยังไม่มี Thai airasia X ) คนอ่านอาจบอกว่าไม่เห็นถูก แต่ผมจองช่วงเดือนกุมภาพันธ์แล้วครับ สายการบินที่บินตรงราคาทะลุ 4 หมื่นไปเรียบร้อยแล้วครบทุกเจ้า  เพราะฉะนั้นใครคิดจะไปช่วงซากุระให้รีบจองแต่เนิ่นๆเลยนะครับ

เอาเป็นว่าจะเป็นการรีวิวสายการบินนี้เล็กน้อย ส่วนตัวให้ 8/10 คะแนนครับทุกอย่างดีหมด อาหารพอทานได้ กระเป๋าให้โหลดได้ 46 กิโลต่อคน (ปลื้มอันนี้มาก ขนขนมกลับมาแบบสบายๆ )  ถ้าหาสายการบินอื่นถูกๆไม่ได้ china eastern ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีครับ

กรุงเทพ-ญี่ปุ่น

ไฟล์ทเราเป็นการเดินทางกลางวัน เครื่องออกประมาณ 10 โมงเวลาไทย ถึง 21:00 เวลาญี่ปุ่น

พอขึ้นบินสักพักก็จะมีการเสริฟน้ำ ตามด้วยอาหาร 1 มื้อตามตำรับ สายการบิน full service ทั่วไป

Japan-4769

china eastern จะมีแวะ Transit ที่เซี้ยงไฮ้ กระบวนการไม่ยากครับ พอลงแล้วจะมีช่องเขียนว่า Transit ก็เดินตามช่องนั้นไป

เราใช้เวลารอขึ้นเครื่องถัดไปประมาณ 40 นาที ระหว่างนั้นก็หาซาลาเปากิน เดินเล่นในสนามบิน pudong ไปเรื่อยไม่เบื่อครับ

Japan-4779

พอขึ้นเครื่องก็มีอาหารให้กินอีก 1 มื้อเช่นเดียวกัน ว่าด้วยอาหารบนเครื่อง ผมว่ารสชาติก็พอทานได้นะ ในภาพนี้ผมเลือกอาหารญี่ปุ่นครับ จะไปญี่ปุ่นแล้วจะกินอาหารจีนทำไม ^^

Japan-4809

เรามาถึงสนามบินตรงเวลา 21:00 เวลาญี่ปุ่นครับ จากนั้นก็ต่อแถวเพื่อเข้าเมือง ตม.ญี่ปุ่นค่อนข้างเข้มทำให้แถวค่อนข้างยาวและใช้เวลานาน

กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1 ชม.เพราะฉะนั้นกว่าเราจะออกจาก narita ก็ 22:00 ซะแล้ว เรานัดญาติไว้ตอน 23:00 ที่ Tokyo station

วิธีการเข้าเมืองจากสนามบิน

เราใช้การเดินทางด้วย “รถบัส” ที่ชื่อว่า Keisei Bus Airport Express เพราะมันเป็นทางที่ “ถูกและดี” อันนี้ญาติเราที่อยู่ญี่ปุ่นแนะนำมา คนไทยกว่า 99.99% คงเข้าเมืองด้วยรถไฟ ซึ่งค่ารถไฟญี่ปุ่นแพงมากกกกก แถมยังต้องลากกระเป๋าหนักๆขึ้นรถไฟ รถบัสนี่ไม่ต้องแบกของแถมถูกกว่ามาก ประมาณ 900-1000 Y เท่านั้นเองครับ

รถก็หาไม่ยากครับ หลังจากออก ตม.มา รับกระเป๋าเสร็จก็มีเคาเตอร์ Keisei bus ในสนามบินเลยครับ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.keiseibus.co.jp/global/en/

หลังจากเราเข้าเมืองมาถึงสถานี Tokyo station เราก็พบญาติที่นัดไว้นั่งรถใต้ดิน ( metro ) ไปอีกประมาณ 50 นาทีก็ถึงที่พัก

สรุปว่าวันนี้เราเข้านอนประมาณ ตี 1 หมดสภาพเลยครับ

วันนี้เราได้ชื่อว่ามาเหยียบประเทศในฝันของใครหลายๆคนเรียบร้อยแล้วหล่ะ

Japan-226

Tripplan : ChillJourney-JapanTrip

ติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::

Instragram :@ChillJourneyTH
Facebook Page : Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Youtube : ChillJourney

Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.