พูดถึงบุรีรัมย์ ใครๆ ก็คงนึกถึงปราสาทหินพนมรุ้ง
สนามฟุตบอลไอโมบาย สนามแข่งรถ
แต่ถ้าลองคิดวิถีชีวิตของคนที่นี่ล่ะ … เราคงไม่ค่อยได้เห็นกัน
หมู่บ้านท่องเที่ยวล่ะ…มีไหม มีอะไรบ้าง ??
ฟังแล้วก็เป็นคำถาม
มีไหม ท่องเที่ยวไหม มาเที่ยวไหม
มาดูกันไหม ว่าเราพาไปดูไหมจริงเปล่า
ที่หมู่บ้านนี้ ให้เรานอนที่บ้านของชาวบ้าน
หรือที่นี่เราจะเรียกว่า บ้านแม่
ซึ่งหนึ่งในนี้ ก็แม่เราคนนึง 🙂
ที่นี่เค้ามีการแสดง เรือมตร๊ด หรือ รำตร๊ด
ประเพณีเขมรถิ่นไทย ชองชาวอีสานแดนใต้
เป็นการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อความสนุกและสนานระหว่างนั้นก็นั่งทานอาหารเพลินๆพร้อมชมการแสดง
จานเด็ดของที่นี่ คือ แกงกล้วย หรือ ซันลอว์เจ๊กจ์ รสเด็ดเชียวล่ะ
ดาวเต็มท้องฟ้า บวกกับเวลาลงตัว ก็ทำให้ได้เห็นทางช้างเผือกกันชัดชัด นอนบ้านแม่ก็จะดีดีแบบนี้สินะ
เมื่อคืนเราหลับสนิท และตื่นกันแต่เช้าตามชาวบ้าน ที่นี่ชาวบ้านตื่นกันตั้งแต่เช้า มาทำโน้นทำนี่ เตรียมกับข้าว รอตักบาตร แน่นอนว่าจะได้ร่วมบุญด้วย ทางที่พักเค้าจะเตรียมข้าว เตรียมกับข้าว ไว้สำหรับใส่บาตรให้เราได้ตักบาตรตอนเช้ากันด้วยล่ะ
ใส่บาตรแล้วเราจะพาไปชมอุทยานหม่อนไหม ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของไหม แล้วข้างใน ก็เป็นบ้านของแม่ถนอมที่เราพักกันนี่เองไม่ใช่ไหนไกล มาฟังวิธีการเลี้ยงไหมเลยได้รู้ว่า… กว่าจะได้มานี่ไม่ใช่ง่ายเลย
พวกหนอนไหมจะถูกเลี้ยงด้วยใบหม่อน
ถึงจะดูวิธีไม่ยุ่งยาก แต่ก็มีหลายขั้นตอนมากกกก
แต่ละระยะเวลาจะถูกเรียกว่า “นอน”
นอน 1 นี่ก็จะตัวเล็กๆเลย จะให้ใบหม่อนแบบซอย
นอน 2 ก็เริ่มให้ใบ
แล้วพอมาถึง “นอน4” หนอนไหมก็จะเริ่มตัวเหลืองๆ เค้าจะเอามาใส่กระจอ ที่เราเห็นเป็นกลมๆ มีเส้นทางกั้นเหมือนเขาวงกตนี่แหละให้หนอนเริ่มสร้างดักแด้ขึ้นมา
และข้างในรังไหม ก็จะเป็นตัวๆแบบนี้ กินได้ด้วยนะ เมื่อเสร็จก็เอาผ้าคลุมกันนกมาจิกหนอนไปเป็นอันเสร็จ
หมู่บ้านนี้อยู่แล้วมีความสุข
นอกจากคนที่นี่จะยิ้มแล้ว
น้องควายก็ยังยิ้มเลย
เราออกเดินลองมาสัมผัสบรรยากาศ สบายๆ รอบๆหมู่บ้านจะมีทุ่งนา ให้เดินเล่น พวกเราเดินเรื่อยๆเพลินๆ จนแม่เดินมาตามไปกินข้าว 🙂
และนี่คือรถกระสวยอวกาศ มีไว้สำหรับพานักท่องเที่ยวเดินทาง อันนี้น่าจะกำลังกลับดวงอาทิตย์นะ
รถกระสวยอวกาศหนึ่งเดียวในโลก คนขับกระสวยวันนี้ ก็ผู้ใหญ่บ้านนี่เอง
ไปต่อที่ตลาดโบราณ ที่นี่จะมีผ้าไหม และขนมโบราณ ขายเป็นหลักมีอะไรน่าสนใจเยอะไปหมดเลย
ขนมตดหมา!! ชื่อฟังดูแล้วไม่น่ากิน แต่ได้ลองแล้วต้องติดใจ
จริงๆ แล้วเป็นชื่อของต้นตดหมา
ลักษณะขนมเหมือนกับขนมจาก แต่ใช้ใบตองห่อแทน
ดูวิธีการเลี้ยงไหมไปแล้ว มาดูการสาวไหมกันต่อ วิธีก็ต้มน้ำแล้วเอารังไหมมาใส่ เมื่อรังไหมโดนน้ำตัวไหมก็จะติดกัน เมื่อรังไหมหมด ก็คอยเอามาใส่เพิ่มแค่นั้นเอง
เดียวจะว่ามาไม่ถึงบุรีรัมย์ ไปดูสนามไอ-โมบายสะหน่อย (i-Mobile Stadium) ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟ้าสวยๆ สนามเขียวๆ เข้ากันดีจริงๆ
ก่อนกลับแวะถ่ายรูป selfie กับลุงเนวินนะเดียวเอ้าท์!
ร้านแนะนำ ใกล้ๆ สนามฟุตบอลมีร้านบุรีรัมย์เป็ดย่าง กลิ่นหอมๆ ตูดเป็ดแห้งๆ กรอบๆ มันๆ อย่างเด็ด
เพิ่งรู้ว่าประเทศไทยก็มีภูเขาไฟกับเค้าเหมือนกันนะ “ภูเขาไฟกระโดง” ด้านบนมีวิวสวยๆของเมือง มีพระสุภัทรบพิตรและมีปล่องภูเขาไฟ ให้เราเดินไปดูได้ ทางขึ้นก็จะเหนื่อยเหนื่อยหน่อยลุยเลยจ้า 297 ขั้นขาสั่นกันเบาเบา
ถึงด้านบนก็จะมีปราสาทขอมพันปี ด้านในมีรอยพระพุทธบาทจำลองนะ
ไหว้พระสุภัทรบพิตร พระคู่บ้านคู่เมืองบุรีรัมย์
เราเดินข้ามสะพานแขวนสำหรับชมวิวปากปล่องภูเขาไฟแบบนี้
ตอที่บ้านสวน fruit & garden ที่นี่เป็นสวนที่เปิดให้เรียนรู้เรื่องการทำเกษตร มีเมล่อนให้เราได้ดูด้วยนะ มาดูเค้าปลูกกัน มาดูเมล่อนลูกโต มาถ่ายรูปสวยสวย
จบทริปสั้นๆก่อนกลับบุรีรัมย์เราแวะกินร้าน ลักษณาขาหมู ที่ อ.นางรอง ก่อนกลับกัน ทริปนี้ทำให้รักบุรีรัมย์ขึ้นอีกเยอะเยอะเลย โดยเฉพาะแม่แม่ที่หมู่บ้านไหมที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราไปนอนบ้านแม่จริงจริง สุขมาก
.
.
“บุรีรัมย์ ไปนำกันบ่”
Instragram :@ChillJourneyTHติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::
Facebook Page : Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Youtube : ChillJourney
Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!