ดิสโทเปียเมืองสุดแปลกที่ “การเป็นโสดเป็นสิ่งต้องห้าม”

เขียน Blog นี้ก่อนวันวาเลนไทน์ 1 วัน ก็เริ่มมีอายุแล้วผ่าน valentine มาหลายปีจนเรารู้สึกว่ามันไม่ได้แปลกใหม่อะไร

หลายคนทุรนทุรายแทบกินนอนไม่ได้ อยากให้หลับข้ามคืนวันที่ 13 ลืมตามาแล้วผ่านไปวันที่ 15 เลยใช่ป้ะ

เป็นมนุษย์โสดก็ต้องผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มากันบ้างแหละนะ เลยหยิบยกหนังน่าสนใจมาเล่าให้ฟัง ถ้ายังไม่ดูก็ดูมันในวันวาเลนไทน์เลย

หนังเรื่องนี้ชื่อว่า Lobster เป็นหนังที่ว่าด้วย เมืองที่มีธรรมชาติสวยงาม บ้านเมืองก็เจริญ แต่ห้ามโสด !!

[ blog นี้มี spoil เล็กๆน้อยๆแต่หนังก็นานแล้วคงดูกันหมดแล้วมั้ง ]

.      โดยเรื่องราวใน The Lobster เกิดขึ้นในเมืองดิสโทเปียเมืองหนึ่งที่ “การเป็นโสดเป็นสิ่งต้องห้าม” ถ้าคนโสดคนไหนหาคู่ไม่ได้ภายใน 45 วัน เขาคนนั้นจะต้อง “กลายเป็นสัตว์” ตลอดไป  เรียกได้ว่าเป็นเมืองทำร้ายคนโสดแบบสุดโต่ง

เรื่องมันพีคเพราะพระเอกถูกสวมเขาโดยภรรเมีย จากที่มีชีวิตแฮปปี้ดี้ด้ามีคู่อยู่ดีๆ ก็โสดเฉยเลยเว้ย ซวยกว่านั้นพอโสดแล้วก็ต้องถูกจับไปอยู่ในโรงแรมนรกอีก ที่รวมๆคนโสดมาอยู่รวมกัน และทุกคนจะ ถูกบังคับให้หาคู่ “ภายใน 45 วัน” ถ้าหาไม่ได้ใน 45 วันก็จะต้องกลายเป็นสัตว์สักตัว โหแรง !!

หนังมันก็ดำเนินเรื่องไปแบบตลกร้ายอะ อารมณ์เป็นโสดแล้วชีวิตต้องเศร้า โดนถากถาง ซึ่งสะท้อนสิ่งทีคนโสดต้องเจอกันในโลกแห่งความจริงอยู่แล้วหล่ะ นี้คือคำถามคลาสสิกที่เจอกันบ่อยๆป้ะ

” ทำไมยังโสด ”

” ทำไมไม่คิดถึงอนาคต ”

” แต่งช้าลูกไม่ทันใช้นะ ”

” ทุกอย่างก็พร้อม เมื่อไหรจะมีแฟน ”

” กินข้าวคนเดียวไม่เบื่อเหรอ “

พวกคนโสดที่ไม่เดือดร้อนกับความโสดเวลาเจอคำถามพวกนี้ก็ต้องประดิดประดอยคำสวยงามกลับไปตอบแบบสุภาพ ทั้งๆที่คิดในใจว่า อืม… !#!@#!@$!@$!@$!@141241$!@$

ตัดฉากมาอีกฝั่งมั่ง คือหนังนี้มันไม่ใช่หนังสำหรับคนเกลียดความรักนะ พอพระเอกหนีออกมาจากโรงแรมนรกนั้นแล้วก็มาพบกับ “กลุ่มความโสด” เป็นกลุ่มที่ไม่มีคู่ และต่อต้านการมีคู่ ตรงสังคมนี้ก็มีกฎอีก ห้ามจู๋จี๋กัน ห้ามฟังเพลงรัก ห้ามหลายอย่าง ตลกร้ายสุดๆ 555+ หนังโคตรตลกร้ายอะ ชอบมาก จิกกัดทั้งฝั่งคนโสดที่เห็นว่าความรักเป็นเรื่องไม่ดี  และทั้งพวกที่มีความรักและมองว่าความเห็นโสดไม่ดี อารมณ์แบบว่า ไปยุ่งเรื่องคนอื่นที่ไม่คิดเหมือนตัวเองทำไมวะ 

บทสรุปส่งท้ายบล็อค

.      เรามองว่าความรักเป็นเรื่องสวยงาม ถ้าได้คู่ดีชีวิตก็คงดีเวอร์ เวลาเห็น backpacker ที่มาเป็นคู่แล้วก็รู้สึกอิจฉาเลยนะ เพราะว่าเวลาที่ backpack มันมักเจออะไรเยอะมากๆ เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเยอะแยะมากมาย ถ้าเที่ยวด้วยกันนานๆแล้วยังไม่เลิกกันก็แต่งงานกันได้เลย อันนี้แนะนำใครจะแต่งงานแต่ยังไม่มั่นใจชวนกันไปแบกเป้ทริปลุยๆหน่อยสัก 2 อาทิตย์ถ้ายังไม่ทะเลาะกันแปลว่าโอเคแล้วหล่ะ

.      ส่วนสำหรับคนที่โสดก็ไม่ต้องไปทุนรนทุรายอะไรหรอก ไม่ต้องไปฟังเสียงนกเสียงกา เรารู้ว่าเรามีความสุขกับทุกวันนี้ก็พอแล้วป้ะ เดียวไว้วันหนึ่งก็ต้องเจอคนที่ใช่สำหรับเราเอง ไม่ต้องทุรนทุรายอะไรเพราะคุณไม่ได้อยู่ในเมือง ดิสโทเปีย นะ

ไม่ต้องรีบหาคู่ภายใน 45 วันขนาดนั้น !

Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!

ติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::