Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

Unseen fukuoka ไปเก็บสตอเบอร์รี่ แช่ออนเซ็น และเสริมดวงด้านความรักกันเถอะ

สวัสดีทุกคนเรามีที่เที่ยวใหม่ๆของเมือง Fukuoka มาแนะนำ แบบที่เราไม่เคยอ่านจากที่ไหนมาก่อนนั่นก็คืออออ การบุกสวนสตรอว์เบอร์รีรี่รี่รี่ ผลไม้โปรดของเราและเชื่อว่าคนไทยเกือบทุกคนก็ชอบเหมือนกัน ฮา เราไปมาสองสวน

 

สวนแรกนี่อร่อยมาก ก.ไก่ล้านตัว อร่อยจนน้องที่ไปด้วยกันบอกว่า “พี่ขอโทษ…แต่ผมต้องพูดคำนี้…อร่อยสัส” คือทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโคตรอร่อยยยยย ใครเคยกินสตอเบอร์รี่ญี่ปุ่นจะรู้ว่ามันหอมมาก เปรี้ยวบางๆ หวานกลมกล่อม โอ้ยยย คือดีมากจริงๆ ที่สวนมีประมาณ 4 สายพันธุ์ให้เลือกได้เอง ชิมไปเรื่อยชอบแบบไหนก็กินอันนั้น ตัดกันสดๆจากต้น ยัดเข้าปากได้เลยบบไม่ต้องจิ้มอะไรให้เสียรสชาติ ไม่ต้องมีนมข้นมาเพิ่มความหวานเพราะมันฉ่ำมากพอแล้ว

ราคา : 60นาที ผู้ใหญ่1800 เยน / เด็ก1200 เยน
เบอร์โทรจอง : 080-8589-7848 ( ต้องจองก่อนเป็นสวนเล็กๆ )
เวลาเปิดปิด : 9:00-15:00 (หยุดทุกวันจันทร์)
ที่อยู่ : ラ・フレーズ
1331-1 Yokomizo, Ōki-machi, Mizuma-gun, Fukuoka-ken 830-0405, Japan
+81 80-8589-7848
พิกัด google : https://goo.gl/maps/1xttFvranpK2

Saga_Fukuoka_00122

อีกที่หนึ่งที่อยากแนะนำเพราะน้อยคนจะรู้ว่า Fukuoka เค้าก็มีอองเซ็นด้วยเหมือนกัน เราได้มีโอกาสไปนอนที่นั่นคืนหนึ่งชื่อว่า Funagoya Hot Spring Hotel Higuchiken เป็นโรงแรมสไตล์ดั่งเดิม สามารถสั่งอาหารเซ็ตแบบ ไคเซกิ มาทานได้ด้วย บรรยากาศที่นี่โคตรญี่ปุ่น คุณป้าพนักงานละเมียดละไมเวอร์ 

วิวหลังห้องก็จะประมาณนี้เลย

ส่วนนี่คือ ซาชิมิ แล้วเห็นที่อยู่ในถ้วยเล็กๆนั่นไม๊… มันครือ เนื้อม้า!!!  เหยยยยย ได้ลองแล้ว แต่จะบอกว่ามันดีมาก เราว่ามันคล้ายเนื้อปลา มันไม่คาวเลย มันดี แนะนำให้ลอง

ส่วนอีกวันก็ไปที่สวนสตอเบอรรี่อีกแล้ว ยังติดใจอยู่ ^^ สวนนี้ชื่อ ichigokirari  ดีงามเหมือนกันนนสวนนี้ยิ่งใหญ่กว่า (แต่สวนเมื่อวานฟินกว่า เข้าใจว่ามันคงพอๆกันแหละแต่ไปสวนเมื่อวานตอนมันสุกได้ที่พอดีเลยโคตรฟิน)

 

สำหรับสวนนี้ข้อมูลตามนี้นะ :

จองล่วงหน้าเบอร์ 080-3379-4115

เก็บได้ 45 นาทีค่าเข้า 1800 เยน เด็ก 1300 เยน

พิกัด google : https://goo.gl/GtNxmT

ดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์เค้าเลยเป็นภาษาอังกฤษ http://ichigokirari.com/en/

ดีงามมากเวอร์นะจ้ะ กินแบบไม่ยั้งงงงงงง

แล้วก็ที่สวนเค้ามีคาเฟ่ด้วย หลักๆก็จะเป็นเค๊ก เป็นอะไรแนวที่เกี่ยวกับสตอเบอร์รี่สวนเค้านั่นเอง เค๊กนุ่มมากเราชอบ แนะนำให้ชิม

อยากจะกลืนกินเธอทั้งตัวไม่ได้เหลือไว้ให้ใครได้กลิ่นนนน

ไปต่อที่ศาลเจ้า Koinoki Shrine ศาลเจ้าแห่งความรัก พามารู้จักกับศาลเจ้าที่ดังมาก มาก มาก มาก แบบคนญี่ปุ่นเค้าว่าเด่นเรื่องความรักจริงจัง คนมาขอพรมาผูกดวงเยอะมาก ที่มันเด็ดคือเราไปดูตรงป้ายที่เค้ามาผูกดวงกันอะ มันก็จะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆใช่ป่ะซึ่งอ่านไม่ออก แต่มันมีป้ายหนึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “รักจัสติส บีเบอร์” อั้ยหย่ะผมนี่หลุดยิ้มออกมาเลย เราว่าาาา บางทีจะขออะไรก็ต้องขอให้มีความเป็นไปได้นิสหนึ่งป่ะ สงสารเจ้าบ้างไรบ้าง 😐

อันนี้ไม่ Unseen ละเพราะเป็นของที่ทุกคนต้องมาคือย่าน Tenjin ย่านฮิตของฟุกุโอกะเค้า สายช็อปเราบอกเลยว่ามาตรงนี้เหอะ มันเป็นแบบ one stop service เที่ยวครบจบในทีเดียวงี้ เอออออ มีเรื่องจะบอกคือร้านดองกี้ แหล่งช็อปปิ้งที่มีทุกสิ่งอยากที่คนไทยชอบมันมีสาขาที่เทนจินแล้วด้วยนะ แถมเปิด 24 ชั่วโมงด้วย เป็นที่พึ่งให้เราจริงจริง

ช็อปเพลินนนนนนน แป๊ปเดียวของฝากของใช้เราก็เต็มตะกร้า

และสำหรับที่นอนแสนไฮโซโบใหญ่ของเราในคืนสุดท้ายที่ Fukuoka ก็คือ Hilton นั่นเอง ที่นี่มีห้องหลายแบบหลายสไตล์และเป็นโรงแรมที่โคตรรรใหญ่ มีถึง 1300 ห้อง++ แบบเยอะมาก ดังนั้นก็จะมีให้เลือกหลายแบบนะตั้งแต่ห้องที่เราพักก็จะแถวๆ 5000 บาท จนเป็นหมื่น หรือหลายหมื่นก็มีเด้อ

วิวจากโรงแรมต้องบอกว่าสุดจริง คือมันติดกับโดมเบสบอลเลยอะ เห็นโคตรชัด

และนี่คือห้องของเรา มันก็จะเล็กๆหน่อยตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่ก็หรูหราน่านอน

อีกวันหนึ่งเราก็กลับกรุงเทพด้วยการบินไทย สายการบินเดียวที่บินตรงจาก กรุงเทพ สู่ ฟุกุโอกะ บินตรงกันแบบยาวๆ 6 ชั่วโมงก็ถึงละ สำหรับบล็อกนี้ก็จบแค่นี้ ขอบคุณที่คนที่อ่านมากันยาวยาว แต่เดียวก่อนใครยังไม่ได้อ่านบล็อกตอนแรกที่พาไปเมือง Saga ก็อย่าลืมไปอ่านกันด้วยเน้ออ

 รีวิวซากะ Saga เมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติของคิวชู

Exit mobile version