Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

Santorini travel guide รีวิวเกาะในฝันธีมฟ้าขาว 3 วัน 2 คืน แบบงบน้อย แต่สุขเต็ม!

แกจะบอกใครว่าไปเที่ยวกรีซแล้วไม่ได้ว่าถ้ายังไม่ได้ไปซานโตรินี ( Santorini ) เกาะอันดับหนึ่งของประเทศกรีซ ( Greece ) เกาะที่ทุกคนในโลกในใฝ่ฝันว่าจะต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต เกาะที่มีความแปลกตาด้วยบ้านสีขาว ตัดโดมหมวกสีฟ้า บ้านปลูกริมเขายื่นหันหน้าเข้าสู่ทะเล สวยแบบโอ้ยไม่รู้จะบรรยายยังไงว่ามันสวยแค่ไหน  คราวที่แล้วเราไปกรีซรอบหนึ่งที่ไปเที่ยวเอเธนและเกาะข้างๆแต่เวลาไม่พอ โอ้ยเสียดายหนักมาก จนรอบนี้กลับไปใหม่!!! เพื่อไปสิงอยู่ที่ซานโตรินีเลย 3 วันเต็ม!!!

 

ก่อนไปนี่ถามหลายเสียงมากว่าไปกี่วันดี??

“1 วันเต็มที่ ถ้าเอาชิลล์ก็ 2 วัน”

แต่เราเลือกไป 3 วัน!! ซึ่งเราขอแถลงไขตรงนี้เผื่อใครกำลังหาข้อมูล คือถ้าเอาแค่ไฮไลท์ 2 จุดชมวิวที่ตรงหมู่บ้าน Fira และ  Oia วันเดียวก็พอ แต่ถ้าเอาแบบเก็บครบไฮไลท์เกาะก็จัดไป 2 วันตามที่คนอื่นบอก แต่เราแนะนำว่าถ้าอยากใช้ชีวิตอยู่บนเกาะให้คุ้มกับที่ข้ามน้ำข้ามทะเลอันไกลโพ้นจากบ้านเรามาก็จัดไป 3 วันเต็มแบบเราอะกำลังดี  2 วันแรกก็เก็บไฮไลท์ไปแบบไม่ต้องรีบ ส่วนวันที่ 3 ก็ไปบีช ไปนอนเล่น ไปกิน ไปเดินเล่น ทำอะไรโง่ๆซ้ำๆวนไปค่ะ

 

ตัวอย่างแผนเที่ยว

Day 1 :
– Fira
– Red beach
– Oia

Day2 :
– Fira
– Anastasi Church
– Santo Wines Winery
– Vlichada Beach
– Perissa Black Sand Beach
– Oia

Day3 :
– Beach chill repeat !

ข้อมูลควรรู้ก่อนไป

 

  • ไปยังไงจากไทย?

จากไทยยังไม่มีสายไหนบินตรงไปกรีซโดยตรงนะ แต่ตอนนี้ก็มีสายการบิน Scoot ที่บินตรงจากสิงคโปร์ไป เป็นสายการบิน low cost ที่นั่งสบายมากเครื่องใหญ่ โอเคเลยเรานั่งมา 2 รอบแล้ว บินด้วย Boeing 787 dreamliner นั่งกว้างนั่งสบายเลย

Scoot website : http://www.flyscoot.com

  • แล้วไปซานโตรินี่ยังไง?

จากเมืองหลวงกรีซ( Athens ) สามารถไปเกาะซานโตได้ 2 แบบคือ เครืื่องบิน/เรือ  ถ้าจองล่วงหน้านานๆเครื่องบินก็ไม่ได้แพงมากประมาณขาละ 2500-3000 บาท ส่วนเรือก็จะมีหลายราคาตั้งแต่ 1500 เป็นต้นไป ต้องลองเช็กดู ตารางเรือตารางบินแต่ละวันไม่เหมือนกันต้องดูให้ดีจะได้ไม่เสียเวลา ( ขาไปชิวนั่งเครื่องบิน ขากลับเรานั่งเรือแบบค้างคืน )

  • การเดินทางภายในเกาะ

บนเกาะมีรถบัสวิ่ง แต่ข้อเสียคือเสียเวลารอแต่ละรอบนาน จะทำเวลาไม่ได้ดีวันหนึ่งเที่ยวได้ไม่กี่ที่ก็คงหมดเวลาแล้ว  เราแนะนำมากๆให้เช่ารถขับ ถ้าไปหลายคนเช่ารถเก๋งได้เลย(ต้องใช้ใบขับขี่สากล) ส่วนถ้าไปคนน้อยอยากประหยัดก็เช่า มอไซด์แบบสกู้ดเตอร์ได้     (ชิวเช่าสกู้ดเตอร์ขับ สะดวกสบายดี หาที่จอดก็ง่าย )

  • วีซ่า : ต้องใช้วีซ่าเชงเก้นในการเข้าประเทศกรีซ
  • เงิน : ใช้เงินสกุลยูโร (EUR)
  • ที่พัก : ถ้าเอาสะดวกของกินเยอะราคาไม่แพงก็พักแถว  Fira แต่ถ้าเอาวิวดีๆยอมจ่ายก็ต้องไปพักที่ Oia ( อาจจะนอนเมืองละคืนก็ได้ )
  • แนะนำ : ตรงโซนกลางเกาะมีซุปเปอร์ใหญ่เลยขายของถูกมาก ขับไปซื้อตรงนั้นเอาชีวิตประหยัดขึ้นโคตรเยอะ

 

เอ้าเริ่มแล้วนะ!  ลุยยยยยย!

Day 1 :

เมื่อคืนเรานั่งเครื่องมาลงซานโตไฟลท์ดึกเลย ต่อบัสจากสนามบินไปที่พักแถวกลางเมือง Fira เรานอน hostel ชื่อ Fira Backpackers Place โฮสเทลนี้ทำเลดีมาก ถูก มีครัว แต่ไม่สะอาดกริ้บเท่าไหรนะ เราให้ผ่านแล้วกันคือนอนได้ถ้ามาคนเดียวไรงี้แนะนำ แต่ถ้ามาหลายคนไปเช่า guest house เป็นหลังอยู่ราคาก็ไม่ต่างกันเลย ห้องพักที่เกาะนี้ไม่แพงมากอะเราว่า ยกเว้นตรงที่วิวพีคๆก็จะแพงแบบคืนละเกือบหมื่นไรงี้เลย ก็แลกกันว่าจะยอมจ่ายเพื่อวิวไหมงี้

 

จุดแรกที่แนะนำเลยคือหมู่บ้าน Fira อันนี้เป็นเหมือนเมืองหลวงของเกาะซานโตนี้ล่ะ ตามที่เราบอกว่าเราเช่าสกู้ดเตอร์ขับมันก็จะสะดวกสบายหน่อย หาที่จอดง่าย ขับจากที่พักมาไม่กี่นาทีก็ถึงจุดนี้ละ จอดเสร็จก็ใช้กำลังขาเลยจ้า เดินวนไปความสนุกมันคือการเดินลัดเลาะตามซอกตามซอยไปเรื่อยๆนี่แหละ แถวนี้ก็จะมีของขายเยอะของขายตลอดทาง มีวิวดีๆให้ชมเรื่อยๆ สวยมากๆๆๆ

Santorini_00001

ด้านล่างนี้เป็นยอดภูเขาไฟนะ ถ้ามีเวลาแล้วอยากออกกำลังกายพวกเธอก็สามารถซื้อทัวร์ไปเที่ยวได้ ส่วนเราอยากชิลล์ขอมองจากด้านบนก็พอใจละ ฮ่าฮ่า

เส้นทางเดินลัดเลาะไปเรื่อยมีของขายเรื่อยๆ ใครชุดมาไม่เต็มชุดผิดระเบียบชาวเกาะนี้ก็ซื้อไปได้เลยจ้า! เพราะลืมบอกไป!! เกาะนี้เค้าแต่งตัวกันเต็มมาก ชุดฟ้าขาว ต้องเข้าธีมนาจา

ร้านอาหารดังที่มีคนแนะนำมาชื่อ Mama’s house อยู่แถวนั้นแหละถ้าหลงก็จิ้มกูเกิ้ลเอาเด้อ เราลองไปชิมกันมานิดหนึ่งเพราะอาหารบนเกาะนี้โคตรแพงเลย แต่อร่อยอยู่แนะนำ เมนูเด็ดที่เค้าแนะนำกันมาคือ หนวดปลาหมึกยักษ์ราด vinegar หืมมมม อร่อยอยู่แต่ของจริงหนวดเล็กโคตระแบบกินสามคำหมดอะ 555

ป่ะไปต่อวันนี้จะแวนซ์สำรวจเกาะโซนใต้กัน จิ้มพิกัดในกูเกิ้ลไปเลยจ้าที่ Red beach ! เราชอบความเก๋ของ Red beach มากมันเป็นหินภูเขาไฟเก่าอะ เหมือนกำลังเดินเล่นอยู่ในภูเขาไฟอะไรเบอร์นั้น ภูมิประเทศแปลกตามาก โคตรชอบเลย

ทางเดินจะแอบลำบากนิดหนึ่ง ไม่แนะนำให้ใส่รองเท้าเตะมานาจา

จริงๆจะบอกว่าเราแว๊นซ์กันไปถึงปลายเกาะด้านล่างเลยที่ประภาคารอะไรนั่นอะ แต่มันไม่มีอะไรเล้ยยยยย ถ้าอยากไปก็ไปได้นะ แต่เตือนแล้วนะว่ามันไม่ชิคอย่างที่คิด วันแรกพวกเราก็แว๊นซ์มอไซด์ไปเรื่อยยยยย ดูวิวแวะถ่ายรูป แวะช็อปปิ้งซุปเปอร์มาเก็ตกลางเกาะ(ของถูกกว่าตรงกลางเมืองโคตรเยอะ)  จนอีกทีก็ถึงเย็นละแว๊นซ์ต่อไปดูพระอาทิตย์ตกที่หมู่บ้าน Oia เหนือเกาะ ไฮไลท์ที่สุดของเกาะพี่มาแล้วววว

 

หมู่บ้าน Oia นี่แบบเป็นภาพที่ทุกคนเคยเห็นแน่นอนเพราะเค้าเอาหมู่บ้านนี้เป็นตัวโปรโมทเกาะกันทุกเชื่อเมื่อวัน และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของเกาะ ดังนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจเลยนะ ว่าตอนเย็นนั้น……… คนเป็นล้านนนนนนนนนนนนนนนน แต่ไม่ต้องกลัวจะบังวิว มีวิวสวยๆให้รูปแน่นอน

ภาพนี้เป็นภาพที่ทุกคนเอาไปขายฝัน ฮ่าๆๆ ได้มาถ่ายด้วยตัวเองละ

ส่วนนี่คือ behide the scene โอ้โห คนเป็นล้านต้องแย่งมุมกันนิดหนึ่งนาจา

Days 2 :

เข้าสู่วันที่สอง เนื่องจากเมื่อวานที่บอกไปอะว่าคนเป็นล้าน เราอยากสัมผัสบรรยากาศแบบไร้ผู้คน ไปต่อนยอนเดินเล่นชิลๆกับเมืองสวยๆก็เลยแหกขี้ตาตื่นกันแต่เช้าพอพระอาทิตย์ขึ้นมีแสงสว่างนิดหนึ่งก็ขับมอไซด์กันไปเลย  แล้วคือไม่ผิดหวัง!! สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แนะนำเลยว่าให้มาตอนเช้าสักครั้งนะ คนน้อยไม่ต้องแย่งถ่ายรูปกะใครเลย สบายมากกกกกกก ( หรือถ้าจะลงทุนสายเปย์มานอน villa ที่ Oia สักคืนก็ได้แบบสักครั้งในชีวิตงี้ )

ถ่ายที่ Oia เสร็จก็กลับกัน วันนี้จะไปเก็บตกที่ Fira ช่วงสายอีกรอบ คืองี้พี่ที่มาเที่ยวกะเราด้วยเค้าจะกลับบ่ายนี้ล่ะเลยขอวนไปเก็บภาพที่ Fira อีกรอบวันนี้อากาศดีกว่าเมื่อวาน ถ่ายรูปสวยกว่า เอ้าไปจ้าไป ก็เหมือนเดิมใช้วิธีการเดินเอา! เดินยาวไปเลยจ้าปลายทางอยู่ที่ Anastasi Church ตรงนั้นเป็นจุดชมวิวที่เห็นเมือง Fira ได้ชัดเจนสุดนะ

ถ้าจำไม่ผิดน่าจะถ่ายจากตรงจด Anastasi Church นะ ลองไปเดินดูเดินขึ้นไปเรื่อยๆอะ

ตรงจุดนี้จะเป็นทางลงไปท่าเรือเก่า ถ้าใครขี้เกียจเดิน เดินไม่ไหวก็มีบริการน้องลาพาลงไปได้ ส่วนเรามองลงไปข้างล่างแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจก็เลยขี้เกียจเดินลง แล้วก็ไม่ค่อยโอเคที่จะนั่งลาขึ้น/ลงด้วยอะ เราสงสารมัน มันน่ารักออกจะตาย

จำไม่ได้ว่าเราเดินมาหรือขับมอไซด์มา… แต่จุดแถวๆกระเช้านี้สวยมากเลย มองกลับไปเปห็น Fira ได้ทั้งเมือง เห็นถึงปลายเกาะเลยด้วยซ้ำ อย่าพลาดเชียว!

มา! จะขอแนะนำร้านอาหารที่อร่อยสุดในเกาะซานโต (ในความคิดเรา) มันคือร้าน BAO นั่นเอง! ร้าน BAO นี่อยู่ตรง Fira ใกล้ๆกับที่พักเราเลยเดินมาได้ ส่วนอาหารที่ขายก็คือ อาหารเอเซี่ยนจ้า 555 ถูกปากถูกใจเราที่ซู้ดดดดดดด

โอ้ยคิดถึงอาหารไทยหลายยยย มีน้ำปลาด้วย

เมนูเด็ดที่อยากแนะนำก็คือ อูด้ง ผัดใส่เนื้อเปื่อย และ ซอสศรีราชา เป็นความ mix and match กันหลายสัญชาติ แต่คุณณณณณณณ มันเผ็ดมันแซ่บมากกกกก เดินทางไกลๆเจออาหารเผ็ดๆถูกปากซักที อร่อยขนาดที่เรากินร้านนี้ทุกวันอะ จัดไปประมาณ 4 มื้อ  ราคาก็ไม่แพงด้วย 7 ยูโรแบบอิ่มเลย

อิ่มคาวแล้วไปต่อที่ Santo Wines Winery !! ร้านไวน์ที่วิวดีรสเลิศที่สุดในเกาะซานโตแห่งนี้  ไม่ต้องบรรยายละมั้งดูภาพแล้วกันเด้อ วิวเทพขนาดดดดด

ร้านนี้ก็ wine ให้ลองสั่งมาชิมได้ หรือ ถ้าแบบจัดหนักก็จัด wine tasting set ไปเลยจ้า เค้าจะขนมาให้ลองชิมกันเป็นสิบๆแก้ว !

wine tasting ของโต๊ะอื่นเด้อ มาโคตรเยอะ เราไม่ใช่สายแอลกอฮอลล์เลยไม่ได้ลอง

ขอพาไปต่อที่หาดที่สวยที่สุดในใจเรา Vlichada Beach !!! น้ำทะเลสีเทอควอยซ์ ตัดกับภูเขาสีเทาลดหลั่นกัน คือ แม่จ้าว!! มีสถานที่เด็ดๆแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอวะผมคิดในใจ ถ้ามีสักที่หนึ่งที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาซานโต เราว่ามันคือที่นี่แหละ!!

โคตรสวยยยยยยยยยย

 

ความพีคมันอยู่มากกว่านั้น!! หลังจากป้าย BLUE FLAG นี้แล้วจะเป็น NUDE BEACH !!!  หาดที่คนเค้ามาแก้ผ้าอาบแดดกันนั่นละครับผู้ชม  อยากสัมผัสบรรยากาศแบบนู้ดๆก็ลองมาแก้ผ้าอาบแดดดู มันก็แปลกๆชิวๆดี

เข้าเมืองตาหลิ่นก็ต้องหลิ่วตาตาม ลองแก้ผ้าอาบแดดดูสักครั้งในชีวิต! เออสำหรับความรู้สึกเหรอเราว่ามันก็ไม่เขินไม่อายอะไรนะ ก็เหมือนไปออนเซ็นที่ญี่ปุ่นนั่นแหละ ก็เหมือนใส่เสื้อผ้านอนรับลมปกติอะ ไม่ได้รู้สึกแปลกหรือเขินอะไร ( เพราะแทบไม่มีคนด้วยมั้ง หาดนี้เงียบมาก นักท่องเที่ยวไม่ค่อยมากัน )

แก้ผ้าอาบแดดได้สัก 10 นาทีก็ไม่ไหวววว มนุษย์เอเชียอย่างเรากลัวผิวไหม้!!   555  ใส่เสื้อผ้านอนเล่นอีกสักพักแล้วไปต่ออีกหาดที่ชิคกะด้าวไม่แพ้กันชื่อ Perissa Black Sand Beach ตรงนี้ก็เป็นอีกโซนหนึ่งที่ backpacker สายทะเลชอบมาพักกันนะ ให้นึกภาพว่าเป็นแนวหาดป่าตองบ้านเราอะไรทำนองนั้น แบบมีบาร์เยอะๆริมทะเลงี้ ก็ดีงามอยู่

ก็ตามที่เราบอกว่าเราว่างงงงงง อยู่ตั้ง3วันก็เที่ยวตามใจงี้ มีอีกจุดหนึ่งที่เค้าบอกว่าเป็นจุดชมวิวที่สูงสุดในเกาะซานโตชื่อ Prophet Elias Monastery ลองขับรถไปดูได้เราว่าก็วิวสวยดี มองเห็นทั้งเกาะเลย แต่ไม่ได้พีคมากนะ ถ้าเวลาเหลือก็ไปไม่เหลือไม่ต้องไปเด้อ

ระหว่างทางไปมีหมู่บ้านหนึ่งเท่ดี ชื่ออะไรไม่รู้อะ… เราแวะไปเดินเล่นมาก็แปลกตาดีนะ มีนักท่องเที่ยวพอสมควร แต่คนไม่เยอะไม่วุ่นวายแบบตรง Fira กะ Oia

 

Day3 :

วันนี้จะเป็นวันเก็บตกแบบไม่ทำอะไรให้เหนื่อย เต็มอิ่มละ ตื่นสายออกไปกินร้าน BAO ขับมอไซด์เล่น เดินเล่นแถว Fira ไปนอนชิวที่หาด Vlichada Beach อีกรอบ แล้วตอนเย็นไปเดินเล่นดูพระอาทิตย์ตกที่ Oia อีกสักรอบ ภาพข้างล่างนี่คือบรรยากาศที่หมู่บ้าน Oia ตอนเย็นนะ แนะนำเลยสวยมาก สวยทั้งเช้าทั้งเย็น

โว้ะ วิวเทพมาก

ถนนช็อปปิ้งของหมู่บ้าน Oia ก็ไม่น้อยหน้านะของขายเยอะเหมือนกัน เดินไปเรื่อยๆเลยจ้า

พระอาทิตย์เริ่มจะตกแล้ว งามมมมมมมมม

อยากว่ายน้ำตรงสระนั้น ต้องมีตังเท่าไหรเหรอครับพี่


ก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ามานั่งดูเมือง Oia แบบพาโนราม่าอีกรอบที่จุดเดิม ก่อนโบกมือลาขอเก็บความทรงจำดีๆใส่ไว้ในใจให้มากที่สุด 🙂

 

สรุปงบประมาณที่ใช้ในเกาะซานโตรินี่ ถูกกว่าไปชะอำไปอี้กกกกกกก!

  • ค่าบัสจากสนามบินไปเมือง = 1.8 EUR
  • ที่พัก 2 คืน = 36 EUR
  • ค่ามอไซด์ 3 วัน 40 ( หารสอง ) =  20 EUR
  • น้ำมัน 9.5 (หารสอง) = 4.75 EUR
  • ค่าบัสไปท่าเรือ = 2.3 EUR
  • อาหารและน้ำ = 50 EUR
  • อื่นๆ 15 EUR

สรุป 130 EUR หรือ 5,000 บาท

 

ตามที่บอกไปว่าเรากลับไป Athens ด้วยเรือ เราใช้ของบริษัท ANEK Lines นะน่าจะเป็นอันเดียวที่มี overnight ด้วยซึ่งเค้าก็ไม่ได้ออกทุกวันต้องลองไล่เช็กดู  ณ ต้นเดือนตค. ที่เราไปราคาอยู่ที่ประมาณ 1600 บาท(นั่งพื้น) แต่เรายอมจ่ายเพิ่มเป็นรวม 2600 กว่าๆเพื่อได้นอนเตียงด้วย

ห้องก็จะเป็นแบบนี้ นอนสบายเลยโอเคมาก มันจะมีหลายแบบตามราคาตั๋วอะนะ ห้อง2เตียง/4เตียง/ห้องหรู ไรเงี้ย

วาปมาอีกทีตอนเช้าถึง Athens จ้าเดินออกมานิดเดียวจากท่าเรือก็จะเป็นรถใต้ดินแล้วสะดวกมาก

สำหรับใครที่อยากไปโน้นนี่นั่นโน้นใน Athens ก็แนะนำตั๋ววันไปเลย 4.5 ยูโร เพราะซื้อเป็นเที่ยวๆรู้สึกจะเที่ยวละ 2 ยูโรมั้ง เราตั้งใจจะไปหลายที่ก็จัดปาย ตั๋ววัน

สำหรับที่พักเราใน Athens ก็ตั้งใจมากว่าจะมาดูวิวสวยๆบน rooftop จัดการจองโฮสเทลที่ทำเลดีสุดชื่อ AthenStyle ทำเลแบบดีจริงไรจริง คือตอนแรกที่ซื้อตั๋ววันมาก็กะว่าจะเที่ยวแบบรัวๆให้ครบไง แต่…ความเป็นจริงคือนอนตายไปเลยจ้า 555 ตื่นมาอีกทีบ่าย3ละ เลยไม่ไปไหนแล้ว เดินเล่นแถวสถานี  Monastiraki  นั่นแหละย่านนี้มีครบทุกสิ่งอัน เราเคยรีวิว Athens แบบละเอียดไปแล้วอ่านได้ที่ลิงค์นี้นะ

รีวิว 5 วัน 3 คืน เที่ยวกรีซแบบคูลๆ ล่องเรือชีวิตดีราคาน่าคบ จบในโพสเดียว

เดินเล่นข้างนอกจนถึงช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ตกก็ขึ้นมาสิงบนบาร์ rooftop ของโฮสเทลเราเลยจ้า วิวแบบนี้เลย!! ไม่ไปไหนแล้วววววววว

โว้โว้โว้

แฮะๆก่อนกลับบ้านจะพลาดไอติมได้ไง!! กับร้านไอติมที่อร่อยสุดในย่านนี้  Le Greche  เดินไปจากโฮสเทลด้วยใจมุ่งมั่นไอติมรสช็อกโกแลตนี่แบบ the best กินแล้วฟินถึงไส้ติ่งกันเลยทีเดียว อร่อยแบบฝันหวานนนนนนน ช็อกโกแลตเข้มจัดถึงใจมากโอ้ยยยย กินเสร็จแบบมันจะฟินมาก เค้าใส่กัญชาลงไปด้วยเหรออออ ไมมันฟินขนาดนี้

เอ้า! ได้เวลากลับเมืองไทยแล้วจ้า นั่งใต้ดินไปสนามบิน หลังจากตรากตำผ่านทริปทรานไซบีเรียจนมาถึงซานโตรินี่ 61 วันได้เวลากลับบ้านแล้ว ! ง่ายสุดในการกลับไทยจากกรีซก็ต้อง Scoot นี่แหละบินตรงจาก Athens ไปลงสิงคโปร์ และต่อเครื่องอีกนิดเดียวก็ถึงไทยแล้ว  ส่วนเครื่องที่บินก็เป็น Boeing 787 dreamliner นั่งกว้างและนั่งสบายมาก !

 

แต่กลับบ้านทั้งทีต้องเปย์ตัวเองให้สุด เมื่อคืนนั่งเรือก็อัพเกรดเป็นนอนเตียงไปแล้ว บินกลับรอบนี้ก็จัด ScootBiz ไปเลยจ้า! รวมเก้าอี้แสนสบาย อาหาร เครื่องดื่ม โหลดกระเป๋าได้ถึง 40 กิโล!  ของว่างอะไรก็ครบเซ็ต

Scoot website : http://www.flyscoot.com

พอเช็กอินเสร็จจะได้ Boarding pass มา 2 ใบสำหรับบิน Scoot ไปสิงคโปร์ และ สำหรับต่อเครื่องบินไปไทย ( ตอนนี้ Scoot และ Tigerair ได้รวมตัวกันแล้วนะ จะใช้ชื่อ Scoot ทำตลาดต่อไป )


มาดูส่วนห้องโดยสารสำหรับ Economy กันก่อนก็จะประมาณนี้ นั่งสบายแน่นอน ที่นั่งกว้างเทียบเท่ากับสายการบิน full service ชั้นนำเลย ไม่ใช่ว่า low cost แล้วจะต้องนั่งขาเบียดอย่างที่คิดนะ เพราะอันนี้เป็น flight long haul บินกัน 11 ชั่วโมง! 

ส่วนอันนี้เก้าอี้ของเราในวันนี้ ScootBiz ก็คือชั้น Business class ของ Scoot เนี้ยแหละ แต่บอกก่อนว่าเก้าอี้นั้นไม่ได้เป็นแบบ Flat bed อย่างที่เข้าใจกันนะ คือเก้าอี้จะค่อนข้างกว้าง มีส่วนช่วงขาที่ดีดออกมาได้ และ หลังที่เอนลงไปได้ คือนอนสบายขึ้นแต่ไม่ได้นอนราบได้แบบ Business class ที่คิดกัน  แต่ทั้งนี้ต้องบอกว่าการอัพเกรดเป็น ScootBiz ก็คุ้มอยู่สำหรับคนที่อยากนั่งสบาย เพราะไม่ได้ต้องจ่ายเพิ่มเฉียดแสนแบบ full service นะจ่ายน้อยกว่านั้นเยอะ !

นั่งแล้วก็จะประมาณนี้ กว้างสบาย

ไม่มีจอ! เอ้าคงมีคำถามว่าบินไกลขนาดนี้ไม่มีจอแล้วจะใช้ชีวิตอยู่บนเครื่องยังไงพี่!  ก็มือถือตัวเองไงต่อไวไฟบนเครื่อง ดูหนังผ่าน App ของเค้าได้เลย สำหรับชั้น ScootBiz ไม่ต้องซื้อคูปองนะเพราะรวมแล้ว แต่ถ้าบินชั้นอื่นก็ซื้อคูปองได้เน้อ

ในส่วนของอาหารนั้นหน้าตาดีและอร่อยใช้ได้ ทีเดียวเราแนะนำเมนู musaka เป็นอาหารกรีซที่ทานง่ายสไตล์คล้ายๆลาซานญ่านะ อร่อยดีเชียร์ๆ

อาหารว่างจะเป็นขนมปังแบบนี้ บินกันไกลต้องมีระหว่างทางสักหน่อย

นอนกันยาวๆตัดภาพมาที่สนามบินสิงคโปร์ วิธีการต่อเครื่อง Scoot กลับไทยก็ง่ายๆแค่เดินตามป้าย transit ดูป้ายว่าไฟลท์เราดู gate ไหนแล้วเดินไปรอขึ้นแค่นั้นเอง ง่ายมากๆ จะแวะช็อปปิ้งก็ได้ถ้ายังไม่สุด จัดไปค่ะ

ขึ้นแล้วก็จัดมื้อสุดท้ายบนเครื่องบินอีก บอกเลยว่าบิน Scoot ต้องจัดข้าวมันไก่ ของดีสิงคโปร์มาก

 

ถึงบ้าน 🙂 ในที่สุดทริปนั่งรถไฟไปซานโตรินี่เราก็สำเร็จลง เราเลือกปิดท้ายที่กรีซ กรีซเป็นประเทศที่เราไปรอบแรกก็ประทับใจ รอบสองก็ยิ่งประทับใจ โดยเฉพาะ Santorini เข้าใจแล้วว่าทำไมทั่วโลกถึงอยากมาที่นี่กันสักครั้งในชีวิต เพราะมันดีแบบ สิบ สิบ สิบ เราชอบทุกอย่างของซานโตรินี่และกรีซเลย รักมาก!

Exit mobile version