Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

ใช้ชีวิตให้ช้าลง ที่โฮมสเตย์บ้านขุนสมุทรจีน 600 บาทก็ฟินได้ ไม่ไกลเลย

.      หากคุณกำลังหาที่พักใกล้ชิดธรรมชาติ ใช้ชีวิต slowlife เบื่อชีวิตอันแสนวุ่นวายในเมืองหลวง คุณจะต้องหลงรักบ้านขุนสมุทรจีนอย่างแน่นอน เมื่อชิลไปถึงแล้วถึงกับทึ่งจริงๆว่าเพียงห่างจากกรุงเทพ 19 กิโลเมตร เรากลับได้ใกล้ชิดธรรมชาติและวิถีชาวบ้านได้อย่างแท้จริง

.      ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ เสาร์อาทิตย์ เน้นพักผ่อนผมจึงทิ้งกล้อง DSLR แสนหนักไว้ที่บ้านและพกมือถือกล้องเทพ Huawei P9 ไปเที่ยวด้วยก็พอ จากที่เอายุโรปด้วยมาทั้งทริปประทับใจจนใช้แทนกล้องหลักไปเลย

_MG_8217

การเดินทาง

.      จากกรุงเทพใช้ขับรถผ่านเส้นทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรปราการ เราจะไปจอดรถกันที่ “ท่าเรือป้ารี่” แนะนำว่าให้ขับตามพิกัด GPS ไปเลยครับพิกัด 13.550067, 100.531123 ( ใน google map ถ้าค้นท่าเรือป้ารี่ จะไม่ตรงซะทีเดียวต้องขับเลยไปอีกนิด )

.      ขับรถมาถึงแล้วก็ฝากรถกับป้ารี่ไว้ค่าจอดรถคันละ 100 บาทครับ ที่จอดมีหลังคา แต่ต้องฝากกุญแจไว้กับป้ารี่เพื่อให้ป้าจัดระเบียบที่จอดรถอันจำกัด ดังนั้นอย่าลืมเคลียร์ของมีค่าออกจากรถก่อนไปนะครับ (เผื่อไว้)

เมื่อจอดรถเสร็จแล้วเดินไปอีกนิดจะเป็นท่าเรือแล้วหล่ะ ต่อเรือไปที่ ท่าเรือท่าเรือบ้านขุนสมุทรจีน(บ้านผู้ใหญ่สมร) เรือลำละ 140 บาทนั่งได้ประมาณ 8 คน ( ต้องขึ้นเรือก่อนเที่ยง ไม่งั้นน้ำจะลดแล้วเรือเข้าไปไม่ได้ ได้อีกที 5 โมงเย็นเลย )

เรือซิ่งมากกกก เข้าโค้งพี่แกแทบจะดริฟละครับ ไม่ต้องรีบอะไรขนาดน้านพี่

นั่งเรือให้ลมตีหน้าเพลินๆประมาณ 15 นาทีก็จะมาถึงท่าเรือบ้านขุนสมุทรจีนแล้วละครับ ไม่ไกลนัก

.      จากท่าเรือให้เดินตรงไปอีกประมาณ 50 เมตรก็จะถึงบ้านผู้ใหญ่สมร ทางแบบชนบทมากๆ คุณหนูคุณนายไม่เหมาะกะโฮมที่นี่นะครับ เตือนไว้ก่อนคือชาวบ้านจริงๆ แต่บรรยากาศดีมากกกก  ฟ้าสวยๆแบบนี้อยากถ่ายให้สวยงาม ผมจะปรับโหมดในกล้อง Huawei P9 ให้เป็นแบบ Vivid colors สีในภาพจะเข้มขึ้นเหมาะสำหรับถ่ายภาพวิว สีจะอิ่มมากขึ้น

ไม่รู้ว่าโชคร้าย หรือ โชคดี คือวันที่ผมไปตอนเช้าฝนตก ดินเลยแฉะ เดินธรรมดาไม่ได้ดินติดและหนักมากจนต้องถอดรองเท้าเดิน เลยได้สัมผัสไอดินกลิ่นหญ้ากันไป 555

ตรงบ้านผู้ใหญ่จะมีหลักกิโลยักษ์ให้ถ่ายรูปด้วย อย่าลืมมาถ่ายกันนะเดียวจะมาไม่ถึง ^^

.      จากบ้านผู้ใหญ่ก็จะมีชาวบ้านที่เราจะไปอาศัยอยู่กะพี่เค้ามารับพวกเราขึ้นเรือไปอีกรอบครับ ครั้งนี้นั่งไม่ไกลแค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว เดินยังได้เลย พวกเราได้บ้านพักที่ “บ้านสามพี่น้อง” พี่เจ้าของบ้านกันเองมาก บ้านไม่หรูหราอะไรแต่ให้ความรู้สึกสบายและอบอุ่น

.      ถ่ายป้ายแบบเด้งออกมาจากฉากหลังซะหน่อย วิธีถ่ายภาพนี้ชิลใช้โหมด Wide aperture ครับ ด้วยโหมดนี้จะเป็นโหมดจำลองการชัดตื้น ผมจะใช้เมื่อต้องการให้ฉากหลังเบลอมากๆเพื่อขับตัวแบบที่เราต้องการให้เด่นขึ้นมา

 

มาถึงนั่งชิวกันสักพักก็เกือบเที่ยงแล้ว พี่เค้าก็ถามว่า “ทานข้าวกันเลยไหม” กำลังหิวๆทุกคนพูดเสียงเดียวกัน “โอเคเอามาเลยคร้าบ/ค่า”

ลืมบอกไปว่าราคา 600 บาทต่อคนนี่รวมอาหาร 3 มื้อแล้วด้วย (กลางวัน/เย็น/เช้า)  คือจะถูกไปไหน แค่มื้อแรกพี่เค้าก็จัดเต็มละ อาหารอร่อยมากๆโดยเฉพาะน้ำพริก โอ้ยแซ่บแท้

.      พอทานเสร็จก็ได้เวลา slow life ครับคือมัน slow จริงเพราะ “ไม่มีอะไรทำ” 555 อย่าลืมพกไพ่ พกเกมส์ พกลำโพงบลูธูท อะไรมาเล่นด้วยนะครับเล่นเกมส์วนไปครับ รอเย็นๆค่อยออกไปเดินเล่น กลางวันอยู่แถวๆบ้านไปก่อน แดดประเทศไทยนะครับร้อนมากกกก

เล่นเกมส์บ้าง วนไปนั่งชิวห้อยขาหลังบ้านบ้าง คือดี เหมาะกับการพักผ่อนสุดๆ

พอสักประมาณบ่าย 3 เราจะงมหอยแคลงกันครับ ก็แถวๆหน้าบ้านเรานั่นแหละ ใครตั้งใจจะทำกิจกรรมอย่าลืมเตรียมชุดไปนะ

.      งมหอยเสร็จก็กลับที่พัก แล้วก็ให้หอยแคลงกับพี่เค้าไป เดียวตอนเย็นพี่เค้าเอามาทำอาหารให้เรากิน ช่วงนี้ก็อาบน้ำอาบท่าวนไปก่อน สักประมาณ 5 โมงพอแดดร่มแล้วเราไปเดินเที่ยวชุมชน หาความรู้บ้านขุนสมุทรจีนกันครับ เราจะเดินไปจนถึง วัดขุนสมุทรทราวาส อยู่ติดกับอ่าวไทยเลย

ทางเดินสองข้างทางเป็นป่าโกงกาง สวยธรรมชาติมากๆจนทึ่งว่านี่ห่างจากกรุงเทพ 19 กิโลจริงๆเหรอ

.      ทางพี่คนนำก็จะพาเราไปไหว้พระ และ เล่าประวัติของบ้านขุนสมุทรจีนให้ฟังว่ามีที่มาอย่างไร ทำไมพื้นที่ตรงนี้ถึงถูกกัดเซาะจนแทบจะหายไปจากแผนที่ประเทศไทย ( การพัฒนาเป็นโฮมสเตย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์)

ใครอยากได้ภาพแบบติด Filter P9 ก็จัดมาให้ด้วยกัน 9 แบบสามารถเลือกใช้กันตามอัธยาศัยเลย

เดินมาถึงริมน้ำจะมีพระองค์ใหญ่ และ ด้านข้างเป็นอาคารวัดแนวจีนมีเจ้าแม่กวนอิมอยู่ด้านในครับ

ไหว้พระขอพร ฟังประวัติเรียบร้อยก็เดินกลับไปทานข้าวเย็น อาหารทะเลกันครับ ไฮไลท์ของที่นี่เลยหล่ะ

.      แต่ละอย่างอร่อยมากกกกกกกกกกกก โดยเฉพาะน้ำจิ้มแซ่บๆ ปูเนื้อแน่นๆสดๆ  (ปูมีให้ประมาณคนละ 1 ตัวเท่านั้น ถ้าอยากฟินตอนจองที่พักสั่งพี่เค้าไว้เลยครับ ว่าอยากได้กี่โล )  ทำรีวิวไปน้ำลายไหลไป อร่อยจริงๆ

.      กิน เล่นเกมส์ ฟังเพลง และ กางมุ้งนอน เป็นอันจบวันแรกแบบสบายๆ พอตื่นมาตอนเช้าก็จะมีอาหารเช้าเป็นข้าวต้มเครื่องร้อนๆเครื่องแน่นๆยกมาเสริฟกันถึงบ้าน

โดยปรกติแล้วพี่เค้าจะทำเป็นข้าวต้ม กุ้ง+หมึก ครับแต่สมาชิกเรามีคนแพ้กุ้งเลยขอพี่เค้าเป็น หมู+หมึกแทน ขอไรได้น่ารักจริงๆ

.      กินเสร็จก็นั่งเล่นเกมส์วนไป (ติด Uno มากเล่นกันทั้งวัน) จนประมาณ 11 โมงก็นั่งเรือย้อนกลับไปที่บ้านผู้ใหญ่ และ นั่งเรือเหมา 140 บาทเช่นเคยกลับไปที่ท่าเรือป้ารี่ ระหว่างนั่งเรือหยิบ Huawei P9 มา Selfie ปรับ beauty mode ระดับ 2 ก็พอหน้าเนียนกริบเลย

Selfie

.      จากท่าเรือป้ารี่ ขับรถตรงไปอีกไม่ไกลจะเจอ “วัดสาขลา” เป็นวัดดังย่านนี้ครับหาที่จอดเลย จากนั้นเราก็จะเดินเล่นชุมชนแถวนั้น และ หาอะไรทานมื้อกลางวันทานกันของกินเยอะแยะเลยแถวนี้

.      ที่ผ่านมาจะเห็นว่าผมถ่ายด้วยภาพแนวสีขาวดำ( Monochrome ) หลายๆครั้งภาพขาวดำ ผมชอบไว้ถ่ายภาพชาวบ้านกำลังทำกิจกรรม มันให้ความรู้สึกมากขึ้น และด้วยกล้องของ Huawei P9 เป็นกล้องคู่ที่มีกล้องอีกตัวสำหรับเก็บภาพขาวดำโดยเฉพาะ และโทนสีที่ได้ Leica มาช่วยกันพัฒนา โทนสีแบบสวยมากเลยครับ

.      กินกลางวันอิ่ม พอจบทริปแล้วเราก็แยกย้ายกลับบ้านกัน ถือว่าเป็นทริปเสาร์อาทิตย์ที่ประหยัดและประทับใจมากๆ เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการอนุรักษ์บ้านขุนสมุทรจีน และ อาหารที่นั่นก็อร่อยจนติดใจจนถึงทุกวันนี้ ใครได้อ่านรีวิวนี้และอยากไปให้รีบโทรไปจองที่เบอร์ 086-567-5296 แล้วไปนั่งชิวนอนชิวที่บ้านขุนสมุทรจีนกันเยอะๆนะครับ ^^

Exit mobile version