ทริปเชียงราย! เรื่องเล่า มนต์เสน่ห์และการเดินของกาแฟ สู่แก้วแห่งความสุข

DAY 1 :
ทริปนี้เราออกเดินทางกันจากกรุงเทพ บินตรงสู่เมืองเชียงรายด้วยสายการบิน AirAsia บินตั้งแต่เช้า นั่งสบายจนงีบหลับบนเครื่อง พอสักประมาณ 10 โมง กับตันก็แลนดิ้งแบบสมู้ทลงสู่สนามบินเชียงราย

สนามบินเชียงรายเป็นสนามบินเล็กๆ พอออกมาเราก็ไปยืมรถจาก Izusu เชียงรายเอารถเค้าไปลุยสักหน่อย ต้องบอกเลยว่าทริปนี้ประทับใจในความลุยของกะบะ Izusu มาก แบบลุยไหนลุยกันได้จริง ทางบนดอยปางขอนอย่างโหด นี่นั่งไปเกร็งไปแต่คือได้ทดสอบสมรรถนะมาก รถเค้าลุยได้จริง

รับรถเรียบร้อยแล้วเราก็ขับรถขึ้นดอยช้างกัน เราได้ไปร้านกาแฟชื่อดัง เพื่อไปดูต้นกาแฟ รวมทั้งกระบวนการต้นน้ำในการผลิตกาแฟจนได้เป็นสารกาแฟออกมา และในปัจจุบันคน Gen 3 ของดอยช้างก็ได้เอามาต่อยอดทำเป็นร้านกาแฟสุดชิคอย่าง

YAYO COFFEE

ร้านกาแฟชื่อดังแห่งดอยช้างสัมผัสบรรยากาศกลางขุนเขาสุดปัง กับกาแฟชั้นเลิศมนต์เสน่ห์แห่งกาแฟที่ใครก็ ห้ามพลาด!พามาหนึ่งในร้านกาแฟแลนด์มาร์กแห่งดอยช้างด้วยบรรยากาศธรรมชาติสีเขียวชุ่มฉ่ำ สายหมอกอ่อนๆ ห่มด้วยลมหนาวเย็นๆ กับมุมถ่ายรูปสุดปังสไตล์ไม้ๆ นุ่มๆ ละมุน IG ไหนจะยังกาแฟคุณภาพที่สรรค์สร้างเองทุกกระบวนการตั้งแต่เก็บเกี่ยว Process คั่ว จนมาถึงมือเราเป็นกาแฟดอยช้างหอมๆ คุณภาพเยี่ยมให้เราได้เพลิดเพลินกับรสชาติของกาแฟชั้นเลิศเสพบรรยากาศอันงดงามที่ไม่ค่อยได้เห็นนับเป็นความสุนทรีย์ของการพักผ่อนอย่างแท้จริง ใครมาดอยช้าง จ.เชียงราย ชิวแนะนำเลยว่า ร้านนี้ควรเป็นหนึ่งในลิสต์ที่ต้องมาให้ได้ การันตีเลย

Akha Farmville
ปิดท้ายก่อนกลับไปนอนพักที่โรงแรม เราได้ไปแวะ Akha Farmville ไร่ที่มีน้องแกะเต็มไปหมด บรรยากาศมีความคล้ายนิวซีแลนด์เมืองไทยอยู่นะเราว่า น้องแกะน่ารักและให้ความร่วมมือดีมาก นางคงเจอคนจนชินละมั้ง

DAY 2 :
The Roastery by roj
วันที่สองของการเดินทาง เราไปเรียนรู้กาแฟให้ลึกขึ้นกันที่ร้าน The Roastery by roj หนึ่งในร้านกาแฟ Specaily สายลึกของเชียงราย บอกเลยว่าทุกครั้งที่เรามาเชียงรายเราก็มักจะแวะเวียนมาเสมอ เพราะที่นี่เป็นทั้งร้านกาแฟ และ โรงเรียนสอนทำกาแฟอีกด้วยนะ

Isuzu
จากนั้นเราก็ขับรถ Isuzu รถดีคันเดิมไปลุยหนักกว่าเก่าที่ “ดอยปางขอน” หลายคนอาจจะคุ้นๆชื่อกันบ้าง เพราะที่นี่คือแหล่งปลูกกาแฟชื่อดังมากๆของเมืองไทย ที่พูดไปคอกาแฟทุกคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เอาจริงๆการไปดอยปางขอนโซนหมู่บ้านนั้น

Coffee plant
ผมได้เรียนรู้กาแฟทำกาแฟโดยไม่ใช้สารเคมี จากเกษตรกรยุคใหม่ ที่ใส่ใจในคุณภาพ เพื่อทำ Specialty grade พอได้ไปฟังกระบวนการทั้งหลาย ความใส่ใจ ความยากความลำบากของการทำกาแฟออกมาให้ดี นี่ทำให้ผม appreciate ( ชื่นชม ) กับความสวยงามและรสชาติของกาแฟในแก้วของผมมากขึ้นเยอะเลยนะ กว่าจะได้มาแต่ละแก้วโคตรยากกกกก

Day 3
The Roastery
วันที่ 3 ของทริปเรากลับมาที่ร้านพี่โรช อีกครั้งวันนี้เรามาเข้าคลาสเรียนการชิมกาแฟกัน หรือศัพท์เค้าเรียกว่าการ “Cupping” เอาจริงๆ ถึงแม้เราจะชอบทานกาแฟขนาดไหน แต่ต้องบอกเลยว่าฝีมือในการชิมเรานั้นอ่อนหัดนัก ถ้าเทียบกับนักชิมกาแฟที่ถูกฝึกการรับรสชาติกาแฟมาอย่างดี แต่อย่างน้อยก็ดีนะ ได้พอรู้คร่าวๆไปฝึกต่อ เราว่าพอเราชิมกาแฟเป็นก็ทำให้เราดื่มได้สนุกขึ้นนะเนี่ย

แบบเฮ้ย แก้วนี้มีรสหวานแบบ คาราเมล แฮะ แก้วนี้หอมฟุ้งๆแบบดอกไม้แฮะ ซึ่งแบบมันเป็นอะไรที่ Amazing มากเลยนะที่กาแฟมันไม่ใช่แค่กาแฟ แต่ทุกอย่างที่เกิดจากความใส่ใจ มันถูกสกัดออกมาเป็นรสชาติของความสมบูรณ์แบบลงบนแก้วที่เราได้ทานกันทุกวัน

Day 3
Caffe coffeemaker
ปิดท้ายก่อนกลับเราได้แวะไปที่ร้าน Caffee coffeemaker ที่นี่เป็นแหล่งรวมอุปกรณ์ และ เมล็ดกาแฟ เอาแบบสรุปง่ายๆตามภาษาเราคือถ้าใครอยากจะเปิดร้านกาแฟคือไม่ต้องไปไหน เดินมาที่ร้านนี้ได้เลย เดียวเค้าแนะนำได้หมดว่าต้องใช้อะไรบ้าง งบประมาณมีเท่าไหร สามารถจัดสรรให้ได้ เปิดร้านได้เลย

ทริปนี้ก็จบประมาณนี้นะ คือสำหรับคอกาแฟอย่างเราคือได้มาก โคตรชอบ ได้เรียนรู้ตั้งแต่ต้นกาแฟ จนถึงสกัดออกมาเป็นกาแฟหอมๆ ส่งตรงสู่แก้วของเรา