Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

Grand Spain Part I : เที่ยวเมือง Madrid และรอบข้าง ปิดท้ายที่ริมทะเลสวยๆเมือง Malaga

จากบล็อกที่แล้วชิวเล่าเรื่องการนั่ง Cathay pacific จากกรุงเทพแวะต่อเครื่องที่สนามบินฮ่องกงและบินตรงยาวจากฮ่องกงมาสู่กรุงมาดริดประเทศสเปน คราวนี้จะเล่าถึงประสบการณ์เที่ยวเมือง Alcala de Henares (อัลกาลาเดอเนาเรส ) เมืองสวยๆใกล้มาดริด และที่สวยๆฮิปๆในมาดริด จากนั้นนั่งรถไฟลงใต้ไปยังเมืองริมทะเลสุดเท่ “มะละกา” ไปกันเลยยย

 

Day 1 : Alcala de Henares

วันแรกเริ่มต้นทริปด้วยการเที่ยวที่เมือง Alcala de Henares เมืองมรดกโลกบ้านใกล้เรือนเคียงของมาดริด เดินทางรถด้วยรถไฟเพียง 40 นาที จะทำ Day trip มาเที่ยวก็ได้หรือจะพักที่เมืองนี้ก็ดีงามเพราะค่าโรงแรมเมืองนี้ถูกกว่ามาดริดแบบชัดเจน ถ้าจ่ายเท่ากันก็ได้ห้องหรูกว่าสิบเท่าอะไรประมาณนั้น! ทีนี้พอจะคุ้มค่าให้มาพักแล้วเน้อะ

Spain_00001

เริ่มต้นเล่าด้วยภาพนี้ ผมถ่ายจาก Tower กลางเมือง ถ้ามองจากมุมสูงก็จะเห็นใช่ป่าวครับว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ให้บรรยากาศยุคเก่า ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกด้วยนะ พอได้มาสัมผัสจะเหมือนกลับไปในยุโรปยุคเก่า เมืองนี้ค่อนข้างเล็ก(มากๆ) ไม่ต้องใช้แผนที่ก็เที่ยวได้ เพียงแค่เดินเล่นไปเรื่อยๆตามท้องถนน ผ่านที่สำคัญที่ไหนชอบก็แวะ

ไฮไลต์ของเมืองนอกจากสวนตรงกลางตามภาพด้านบนคือถนน Calle Mayor นี่ล่ะที่ผมชอบเป็นถนนคนเดินที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ระหว่างที่ชิวเดินผ่านผมรับรู้ได้ถึงความสุขของผู้คนที่ออกมาสนุกกับแสงแดด ดื่มกาแฟ จิบเบียร์ ทานข้าว พูดคุยกันอย่างออกรส (แม้จะฟังไม่ออกก็ตาม ฮ่าๆๆๆ)

ในถนนเส้นนี้ก็จะพบ ร้านรวงเล็กๆที่น่าสนใจเพียบ เช่น ร้านหนังสือเล็กๆร้านนี้ที่ตบแต่งจัดเรียงง่ายๆแต่ดูดี

Alcalá University คือมหาลัยชื่อดังของที่นี่รวมทั้งเป็น Main attraction ที่ไม่ควรพลาดมาถ่ายรูป เราเดินสำรวจแถวนี้เล็กน้อยแล้วไปกันต่อ ด้วยความที่เมืองค่อนข้างเล็กถ้าจะเที่ยวแบบแค่เดินผ่าน 2-3 ชม.ก็เก็บได้ครบถ้วนแล้ว มีเวลาเหลือก็หาร้านเก๋ๆสักร้านนั่งจิบกาแฟมองผู้คนไปแล้วกัน แต่แนะนำอย่าดึกมากมาถึงวันแรกก็คงยังมีอาการเพลียจาก jet lag บ้างเข้านอนกันไวหน่อย

ตามที่บอกไปครับว่าเมืองนี้ค่าโรงแรมไม่แพงเท่ามาดริด ชิวพักที่โรงแรม 4 ดาวใจกลางเมืองชื่อว่า Parador de Alcalá de Henares ห้องหรูหรา ใหญ่โตและดีงามมากในราคาถูกกว่ามาดริดเกินครึ่ง

Day 2-3 : Madrid

2 วันต่อจากนี้จะอยู่เมืองหลวงนามว่า “มาดริด” เพื่อนคงพอคุ้นเคยกับมาดริดบ้างแล้ว ชิวก็เคยเล่าให้ฟังไปแล้วรอบหนึ่งแล้วเน้อะเมื่อปี 2015 >> อ่านบล็อกเก่า << ชิวมารอบที่สองเราก็จะพาไปที่ใหม่ๆที่เราชอบแล้วกัน โดยเริ่มจากที่แรกคือร้านอาหาร La azotea roof top terrace ร้านนี้เป็นร้านที่วิวดีสุดๆในมาดริด เพราะจะมองเห็นตึก Metropolis ตึกที่สวยจนเป็นสัญลักษณ์ของเมือง รวมทั้งวิวมุมสูงอื่นๆ ยังไงลองดูภาพนะ

บรรยากาศด้านบนจะชิวชิวแบบนี้เลย

ส่วนวิวทั้งหลายทั้งมวลด้านบนก็จะเลิศล้ำประมาณนี้ !

มองไปทางขวาจะเป็น Plaza de Cibeles

พาไปต่อที่ย่านธุรกิจที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนคือย่าน Salamanca ย่านเก่าแก่ที่หล่อเลี้ยงมาดริดมายาวนาน ตรงนี้นอกจากเป็นย่านธุรกิจก็จะยังมีพวกร้านอาหาร ตลาดด้วยครับมาเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศใหม่ๆก็สนุกดี

เดินชมตลาดสดที่ไม่เหมือนบ้านเรา ให้อารมณ์เหมือนเดินโซนอาหารสดใส่บิ๊กซีมากกว่า ฮ่าๆ

เดินสำรวจย่านนั้นเล็กน้อยแล้วไปทานข้าวกันที่ Taberna La Bola ร้านนี้เป็นร้านอาหารแบบสเปนโบราณ เป็นซุปหมูและไก่ตุ๋นกับมันฝรั่ง เวลาทานเค้าจะเทซุปนี้ใส่ลงในจานที่มีเส้นหมี่ ผมว่าอร่อยดีนะรสชาติค่อนข้างคุ้นลิ้นทีเดียว

กินข้าวเสร็จแล้วเดินต่อที่พระราชวังแห่งมาดริด Royal palace เป็นที่ๆแบบไม่มาไม่ได้ เหมือนมากรุงเทพไม่ไปวัดพระแก้วอะไรทำนองนั้น! รวมๆก็สวยดีครับ (แต่ถ่ายรูปด้านในไม่ได้นะ)  ใครอยากได้ภาพสวยๆแบบนี้ ให้อยู่ทางซ้ายของพระราชวังจะมีเนินขึ้นมานิดหนึ่งถ่ายรูปสวยกว่า

จากพระราชวังเดินต่อไปทางขวาเรื่อยๆจนถึง Templo de Debod เป็นวัดเก่าของอียิปต์เค้าให้มาตั้งที่มาดริดเพื่อตอบแทนตอนที่สเปนไปช่วยเค้าสร้างเขื่อน รูปร่างอาจจะแปลกตาแต่ไม่เด่นสวยเท่าไหร แต่ไฮไลท์อยู่ที่ด้านหลังเดินต่อทะลุไปเลย มองไปทางซ้ายจะเป็นจุดชมวิวพระราชวังอีกจุดที่สวยงาม

ในยุคที่กระแสฮิปเตอร์ครองเมืองแบบนี้ มาดริดนางก็มีย่านชิคเหมือนกันชื่อว่า Chueca  สำหรับชิวว่าก็เป็นย่านที่สวยน่าเดิน แม้ไม่ฮิปหรือมีเพ้นต์อะไรมากมายแบบที่ดังๆประเทศอื่น แต่จุดที่น่าสนใจกว่าคือเค้าเอาตึกเก่ามาปรับให้เข้ากับยุคใหม่ ตึกเก่าศิลปะยุโรปเลยแต่ด้านในร้านฮิปๆขาวๆซะงั้นเกร๋ไปอีกแบบ

อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ถ้าสเปนคือ Tapas tour ขอเล่าท้าวความนิดหนึ่งคือคนสเปนเนี้ยเค้ากินมื้อกลางวันเป็นเมื้อหลัก กลางวันจะกินนานกันสองชั่วโมงจัดใหญ่จัดเต็ม ส่วนมื้อค่ำเค้าจะทานอะไรที่ไม่หนักนัก เป็นอะไรก็ได้ที่เป็นของชิ้นเล็กเรียกว่าทาปาสหมด ทีนี้ก็เลยเกิด “ทาปาสทัวร์” คือการพาเที่ยวมาดริดกลางคืนแบบเข้าหลายๆร้าน กินร้านละอย่างสองอย่าง เหมือนเราไปตะลุยกินเยาวราชชิมสิบร้านอะไรทำนองนั้น โคตรเจ๋ง!

เมนูนี้เด็ดมาก แบบแทบตายได้ถ้าไม่ได้กิน จริงๆมันก็คือกุ้งทอดกะเทียมและใส่พวกสมุนไพรบ้านเค้าลงไปอะครับ แต่อร่อยโคตรรรรรรรรรร

ในทาปาสทัวร์นอกจากจะได้กิน กิน กิน และ กินแล้วก็จะได้เดินเที่ยวเมืองด้วย เดินผ่านย่านสำคัญๆที่นักท่องเที่ยวต้องผ่านทุกคนอย่าง SOL และจตุรัสกลางเมือง

กินๆเที่ยวๆวนไปและมาถึงร้านที่ 4 ร้านสุดท้ายของวันชื่อร้าน  Restaurante Sidrería Casa Parrondo ร้านนี้ผมชอบมากแบบ ก.ไก่ล้านตัว แบบเป็นร้านทาปาสสไตล์สเปนแท้ๆ ผู้คนเสียงดังมาก บรรยากาศโคตรเรียลแนะนำเลยถ้ามาสเปนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง !!  (เป็นบาร์ธรรมดาไม่ต้องมากับทัวร์ก็ได้ดูใน google map แล้วเดินมาเลย )

สำหรับที่พักในมาดริดชิวพักที่  ME Madrid Reina Victoria เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวอยู่ใจกลางเมืองทำเลดีมาก ห้องขนาดกลางๆ เครื่องใช้ดีงาม แต่ราคาดุนิดหนึ่งตามประสาเมืองหลวง ^^

Day 4 : Malaga

ต่อวันที่ 4 เราจะข้ามเมืองเริ่มลงสู่สเปนใต้กันแล้วจ้า ชิวนั่งรถไฟความเร็วสูงจากมาดริดใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็จะมาถึงเมืองมะละกา หลายคนอาจจะร้องเอ๊ะ ชื่อคุ้นๆคือชื่อมันพ้องกับเมืองเดียวกับมาเลเซีย (ช่องแคบมะละกา)  แต่ไม่ใช่นาจานี่สเปนจ้า เมืองนี้ส่วนตัวชิวค่อนข้างชอบมากกว่ามาดริดและแนะนำให้มาเที่ยวตามเพราะดีจริง

โดยจุดแรกที่แนะนำคือ Castillo de Gibralfaro เป็นปราสาทเก่าอยู่บนเขา เอ๊ะๆพูดถึงเขาอย่าเพิ่งท้อ ไม่ต้องเสียแรงปีนเพราะเค้ามีลิฟต์พาไปด้านบน นอกจากจะได้ชมสถาปัตยกรรมยุคเก่าที่งดงาม ทึ่งกับนวัตกรรมว่าคนโบราณสร้างอะไรที่ยิ่งใหญ่รวมทั้งระบบประปาขึ้นมาได้ยังไง ยังสามารถเห็นวิวมุมสูงที่สวยงามของเมืองได้กว้างแบบ 360 องศาอีกด้วยแจ่มมากกกกก

ไปต่อกันที่ตัวเมืองกัน เมืองนี้ได้รับชื่อว่านครสีเหลือง ลองดูภาพมุมสูงก็คงเข้าใจเน้อะเพราะมองไปทางไหนก็จะเห็นสีเหลือง earth tone ไปหมด เมืองคุมโทรเกร๋ไปอีก เมืองนี้เหมาะกับการใช้เวลาเดินเล่นเรื่อยๆมาก เดินไปตามถนนหลัก เดินตามตรอกซอกซอยค้นหาความดีงามที่เจอระหว่างทางอะไรแบบนี้ดีมาก

สาวกไอศกรีมต้องไม่พลาดร้าน Casa Mira ร้านไอศกรีมที่ไกด์บอกว่าอร่อยสุดในเมืองนี้เชียว !

เดินเล่นผ่านเมืองไปเรื่อยจนถึงอีกจุดหนึ่งที่คนชอบชมวิวต้องไม่พลาดครับ คือ การนั่ง Malaga City Big Wheel ชิงช้าสวรรค์ไซต์ยักษ์ชมวิวเมืองนั่นเอง สำหรับชิวผมว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าวิวดีงามไม่เสียดายค่าขึ้นแน่นอนครับ

เป็นกระเช้าแก้วแบบนี้มองวิวได้ 360 องศาเลย

ลงกระเช้าแล้วเดินต่อเรียบทะเลไปยังมิวเซียมคูลๆที่มีแนวคิดแปลกๆ มันออกจะแปลกหลุดโลกสักหน่อย เช่น ถ่ายหน้าคนหลายๆหน้ามาซ้อนกันในโปรแกรมอะไรแบบเนี้ย เท่และแปลกในคราวเดียวกัน 555

มาเที่ยวเมืองติดทะเลแบบนี้ก็ต้องปิดท้ายวันด้วยการกินข้าวริมทะเล เราจะพาไปร้านอาหารที่วิวขั้นเทพชื่อว่า  El Balneario – Baños del Carmen ร้านนี้ตั้งอยู่แหลมริมทะเลพอดิบพอดี เป็นบ้านพักตากอากาศของชนชั้นสูงเก่าเอามา renovate ใหม่เป็นร้านอาหาร อาหารอร่อยสดสะอาด แต่ที่เด็ดสุดๆที่บอกไปคือ “วิวเทพมากกกกกก” สุดติ่งกระดิ่งแมวเลยฮะ

อาหารทะเลบ้านเค้าก็จะประมาณนี้นะ ไม่จัดใหญ่จัดเต็มซีฟู้ดล้วนแบบบ้านเราเน้อะ แต่อร่อยดีเพราะสดมากๆๆ

บทส่ง

ก่อนบล็อกจะยาวไปกว่านี้ชิวจะขอตัดจบก่อนสำหรับการเล่า 3 เมืองแรกก่อนแล้วกัน ชิวพาไป3เมืองคือ Alcala de Henares มรดกโลกใกล้มาดริด และสถานที่สวยๆฮิปๆในมาดริด รวมทั้งเมืองริมทะเลสุดเก๋อย่าง Malaga ไว้บล็อกหน้าจะมาเล่าอีก  สเปนเป็นประเทศที่มีความเผ็ดแซ่บซ่อนอยู่อีกมากมายรอให้คุณมาสัมผัส 🙂

 

รวมรีวิว Grand Spain :

Part 0 : รีวิว Cathay Pacific ต่อเครื่องฮ่องกงปลายทางสเปน Eco และ Business Class

Part 1 : Grand Spain Part I : เที่ยวเมือง Madrid และรอบข้าง ปิดท้ายที่ริมทะเลสวยๆเมือง Malaga

Part 2 : Grand Spain part II : เที่ยวสเปนตอนใต้ กับเมืองโคตรชอบ Ronda , Jerez และ Sevilla

Part 3 : Grand Spain Part III : Salamanca เมืองมรดกโลกใกล้มาดริดเพียง 2 ชั่วโมงที่ไม่ควรพลาด!

Exit mobile version